คำเทศนาเรื่อง การเลือก
พระคำของพระเจ้าที่จะใช้เป็นกุญแจ ในการแบ่งปันกับพี่น้องในเช้าวันนี้จะอัญเชิญจากหนังสือ ปฐก. 2 : 15 - 17ให้ที่ประชุมเปิดไปที่ปฐก. 2 : 15 - 17และเพื่อให้เกียรติแก่พระวจนะของพระเจ้าขอเชิญที่ประชุมยืนขึ้นและเราจะอ่านจาก ปฐก. 2 : 15 - 17พร้อมๆกันอย่างช้าๆด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ“ พระเจ้าจึงทรงให้มนุษย์นั้นอยู่ในสวนเอเดน ให้ทำและรักษาสวน พระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่วผลของต้นไม้นั้นอย่ากินเพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่ ” และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า การเลือก ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน
พี่ - น้องที่รักครับ 19 สิงหาคม 2550 วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์ของชาติไทยจะต้องมีการบันทึกไว้ว่า นี่เป็นครั้งแรกของคนไทยที่ได้รับโอกาสในการเลือกที่จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประชาชนคนไทยได้รับโอกาสเพียงการให้ออกไปใช้สิทธิ์ ใช้เสียงในการเลือกตั้ง สส. สว. และรวมทั้งการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นเท่านั้นส่วนที่เหลือนักการเมืองไปจัดการกันเองทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นวันที่ 19 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา จึงเป็นวันประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทยที่จะต้องถูกบันทึกไว้อย่างแน่นอน ผลที่ออกมาเป็นอย่างไรบ้างครับพี่ - น้อง รับหรือไม่รับครับ ? แม้ว่าบางภาคหรือบางจังหวัดจะไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ตาม แต่โดยส่วนใหญ่ของประชาชนผู้มีสิทธิ์ในการลงประชามติให้การยอมรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และจะเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย
พี่ - น้องที่รักครับ ในการดำเนินชีวิตของเรานั้น เรามีโอกาสในการที่จะเลือกเพียงเรื่องรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวใช่หรือไม่ ? ในการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน เรามีโอกาสที่จะเลือกอะไรต่อมิอะไรมากมายหลายอย่างด้วยกันเช่น
ในด้านของการบริโภค เรามีโอกาสเลือกซื้อผักและผลไม้ที่โลตัส และเรามีโอกาสที่จะเลือกซื้อผักและผลไม้ที่ตลาดธนวัฒน์
ในด้านของสุขภาพร่างกาย เรามีโอกาสที่จะเลือกเข้า รพ.ของรัฐ อย่างรพ.พระพุทธเลิศหล้าและเรามีโอกาสที่จะเลือกเข้ารพ.เอกชนอย่าง รพ.แม่กลอง 2
ในด้านการของสื่อสารโทรคมนาคม เรามีโอกาสที่จะเลือกใช้ระบบ ดีแทค และเรามีโอกาสที่จะเลือกใช้ระบบ GSM และอื่นๆ อีกมากมาย
ความสุขในด้านการชมละครหลังข่าว เรามีโอกาสเลือกที่จะดูละครเรื่องสร้อยแสงจันทร์และเรามีโอกาสที่จะเลือกดูละครเรื่องเลือดในดิน
พี่ - น้องจะเห็นได้ว่า ชีวิตของมนุษย์เราทุกวันนี้ เต็มไปด้วยทางเลือกที่มากมาย และทางเลือกที่ว่านี้ พระเจ้าก็ได้ให้แก่มนุษย์ตั้งแต่ครั้งปฐมกาล (อ่านปฐก.2 :15 - 17)
ปฐก.2 :15 -17 ทำให้เราทราบว่า มนุษย์ได้รับสิทธิในการเลือกครั้งแรก ณ.สวนเอเดน
แต่มนุษย์...เลือกทำในสิ่งที่ผิดไปจากน้ำพระทัยของพระเจ้า ดังนั้นมนุษย์จึงตกอยู่ในผลแห่งการเลือกของตน
พี่ - น้องหลายๆ คนในวันนี้ ที่ต้องเหน็ด ต้องเหนื่อย กลุ้มอก กลุ้มใจ กินก็ไม่ค่อยจะได้ นอนก็ไม่ค่อยจะหลับเพราะอะไรครับ ? เพราะต่างตกอยู่ในผลแห่งการเลือกของตนทั้งสิ้น ให้เราบอกกับคนข้างซ้าย ข้างขวาว่า อย่าบ่น แต่ต่อจากนี้ไปเมื่อเรามีสิทธิเลือก ขอให้เราได้เลือกในสิ่งที่สอดคล้องต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า ( อาเมน )
การเลือกที่สอดคล้องต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า
ประการที่ 1 คือ เลือกทำความดี พระคำของพระเจ้าในหนังสือ อฟซ. 2:10 ตรัสว่า
“ เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์ เพื่อให้ประกอบการดีซึ่งพระเจ้าได้ทรงดำริไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เรากระทำ”
ดังนั้นการเลือกที่สอดคล้องต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าประการที่ 1 นั่นคือ การเลือกที่จะทำความดี
พี่ - น้องที่รักครับ วันที่ 9 มิ.ย. 2549 ที่ผ่านมานับเป็นปีมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง เนื่องในศุภวาระที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบ 60 ปี รัฐบาลได้จัดงานเฉลิมฉลองอย่างสมพระเกียรติและถูกต้องตามราชประเพณีอีกทั้ง
ยังมีนโยบายที่จะให้ดำเนินโครงการต่างๆ อีกมากมายหมายหลายโครงการ เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความกตัญญูกตเวที น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่าน และหนึ่งในโครงการที่ว่าก็คือโครงการ ลด ละ เลิก สิ่งที่เป็นอบายมุขทั้งปวงน้อมเกล้า ฯ ถวายในหลวง ทั้งนี้โดยให้ยึดถือเป็นการปฏิบัติบูชา
คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า จากวันที่เริ่มโครงการจนถึงวันนี้ พี่ - น้องช่วยผมคิดหน่อยน๊ะครับว่า ในเวลานี้คนไทยได้พากันลด ละ เลิก พฤติกรรมในทางอธรรมหรือในทางชั่วกันไปมากน้อยแค่ไหนแล้วหรือเหมือนเดิมและหรือยิ่งมากไปกว่าเดิม
พระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนเพื่อให้ประกอบความดี ( อาเมน ) เหตุที่เราต้องประกอบความดี เพราะนี่เป็นพระดำริหรือเป็นความคิดของพระเจ้าตั้งแต่แรก
เมื่อพระเจ้าทรงดำริให้มนุษย์ทุกคนประกอบความดี พระองค์จะทรงดำริเฉยๆ อย่างเดียวได้มั้ยครับพี่ - น้อง ? ไม่ได้ พระองค์จะต้องทรงพระราชดำรัสหรือพูด
พระองค์ทรงตรัสไว้ในหนังสือ อาโมส 5:15 จงเกลียดชังความชั่วและรักความดี
ดังนั้นอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่ ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม เป็นการซึ่งชั่วร้าย เป็นการไม่สมควรให้เราเลือกที่จะปฏิเสธสิ่งต่างๆเหล่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อเรามีโอกาสในการเลือก ระหว่างการทำความดีกับการทำความชั่วให้เราเลือกอะไรครับพี่ - น้อง ? ให้เราเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรม ให้เราเลือกที่จะมีจิตสำนึกที่ถูกต้อง ให้เราเลือกที่จะทำในสิ่งที่ดี
สิ่งที่แปลกแต่จริงก็คือว่า การทำชั่วนั้นมันง่าย แต่การทำความดีนั้นมันยาก
การทำความชั่วนั้นไม่ต้องเรียน ไม่ต้องฝึกก็ชั่วได้ เพราะอาดัม - เอวาได้โอนถ่ายวิญญาณแห่งการทำความผิด ความบาป การไม่เชื่อฟัง ให้กับมนุษย์ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เราเต้นไปตาม ringtone จังหวะเนื้อหนังของเรา หรือเราเต้นไปตาม ringtoneกระแสของสังคม เราก็จะกลายเป็นคน อธรรม ได้ในทันที
แต่การทำความดีนั้นต้องฝึกฝนมั้ยครับพี่ - น้อง ? รม.2 : 7 พากเพียรทำความดี การทำความดีต้องพากเพียรฝึกฝน ซึ่งนั่นหมายความว่า การฝึกฝนที่ว่านี้ ไม่ใช่การฝึกฝนแบบธรรมดา แต่ต้องฝึกฝนในการทำความดีด้วย ความตั้งใจ ด้วยขยันหมั่นเพียร ทำอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะต่อสู้กับเนื้อหนังของตนหรือเพื่อที่จะต่อสู้กับกระแสของสังคมและจะต้องฝึกฝนในการทำความดีต่อคนทั้งปวงด้วย และแม้ว่าในการเลือกทำความดีของเราอาจจะไม่มีใครเห็นก็ตาม แต่เราไม่ต้องท้อใจเพราะมีคนหนึ่ง ที่มองเห็นความดีที่เราทำอย่างแน่นอน คนนั้นคือใครครับพี่ - น้อง ? พระเจ้า
กลท . 6 : 9 - 10 อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำความดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาสให้เราทำความดีต่อคนทั้งปวง ให้เราบอกกับคนข้างซ้าย ข้างขวาว่า ให้เราเลือกทำความดี
การเลือกที่สอดคล้องต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า
ประการที่ 2 คือ เลือกเอาความจริง
พระคำของพระเจ้าในหนังสือ สดด.119 : 30 ตรัสว่า ข้าพระองค์ได้เลือกทางความซื่อสัตย์ ข้าพระองค์ยึดถือประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้า
พี่ - น้องที่รักครับ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคนี้ มีหลายๆประเทศตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศเกาหลีใต้ด้วย ทหารของญี่ปุ่นสั่งปิดคริสตจักรและส่งมิชชั่นนารีกลับประเทศ อีกทั้งสั่งห้ามมีการนมัสการพระเจ้า แต่ให้หันมานมัสการพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นแทน
อย่างไรก็ตามก็มีคริสตจักรแห่หนึ่ง ยังจัดให้มีการนมัสการพระเจ้าตามปกติซึ่งทำให้ทหารเข้ามาจัดการอย่างเด็ดขาด เขาได้ปลดรูปพระเยซูลงมาไว้ที่หน้าธรรมมาสน์ และสั่งให้ผู้ร่วมประชุมปฏิเสธพระเยซูด้วยการถ่มน้ำลาย โดยเริ่มจาก ศบ. ก่อนตามด้วยคณะผู้ปกครองและก็มาถึงเด็กคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่แถวหน้า
เด็กคนนั้นร้องไห้และก็พูดว่า หนูรักพระเยซู ( 2 ) แล้วเด็กคนนั้นก็ได้ถกกระโปรงขึ้นค่อยๆเช็ดน้ำลายที่ ศบ.และคณะผู้ปกครองได้ถ่มน้ำลายทิ้งเอาไว้ ซึ่งใครๆ
ก็คิดว่าทหารญี่ปุ่นคงยิงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ทิ้งอย่างแน่นอน
ปรากฏว่าทหารญี่ปุ่นให้ทุกคนออกไปนอกโบสถ์เหลือไว้เพียง ศบ. กับคณะผู้ปกครอง สักครู่หนึ่งภายในโบสถ์ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ปัง ๆ ๆ ซึ่งหมายความว่าศบ.กับผู้ปกครองถูกยิง แล้วทหารก็ออกมายืนที่หน้าประตูโบสถ์ และพูดขึ้นว่า “วันนี้ยังปฏิเสธพระเยซูได้ วันหน้าก็ปฏิเสธพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นได้เช่นกัน”
พี่ - น้องที่รักครับ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ซึ่งหมายความว่า ผลของความจริงนั้นยังคงอยู่ และคนพูดความจริงก็ใช่ว่าจะต้องตายเสมอไป โดยเฉพาะความจริงแห่งพระวจนะนั้น
ผู้เขียนหนังสือสดุดี 119 ได้กล่าวยืนยันอย่างชัดเจนว่า เขาจะเลือกเอาความจริงของพระเจ้า และเขาจะยึดมั่น ถือมั่น โดยการประพฤติ และปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระเจ้า ผลของการที่ผู้เขียน สดุด. 119 เลือกนั้น ผมเชื่อว่าจะสอดคล้องต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นพี่ - น้องที่รัก เมื่อเรามีโอกาสเลือกให้เราเลือกเอาความจริงแห่งพระวจนะ ยน. 17:17 พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง ดังนั้นอย่ามองข้ามพระคัมภีร์ เพราะพระคัมภีร์เป็นพระวจนะของพระเจ้า
ดังนั้นเราต้องยอมรับสิทธิอำนาจของพระคัมภีร์ว่า พระคัมภีร์นั้นมีอำนาจสูงสุดเหนือชีวิตของเรา เหนือครอบครัวของเราและเหนือคริสตจักรของเรา เมื่อเรามีโอกาสเลือก ให้เราเลือกเอาความจริงโดยให้พระคัมภีร์เป็นสิทธิชี้ขาดในสิ่งที่เราจะทำ (อาเมน)
ซึ่งหมายความว่า เมื่อเราจะตัดสินใจทำอะไรก็ตาม เราจะดูว่าพระคัมภีร์พูดว่าอย่างไร ? ไตร่ตรองและซึมซับความจริงแห่งพระวจนะนั้น ด้วยความเอาใจใส่ ยึดมั่น ถือมั่นโดยการประพฤติและปฏิบัติตาม ยน. 8 :31 - 32 ถ้าพวกท่านยึดมั่นในคำสอนของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง และพวกท่านจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านเป็นไท
ให้เราบอกกับคนข้างซ้าย ข้างขวา ว่าให้เลือกเอาความจริง
ประการที่ 3 คือ เลือกเดินตามพระเจ้า
หนังสือ ฉลธ. 30:19 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า ข้าพเจ้าตั้งชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน เพราะฉะนั้นท่านจงเลือกเอาข้างชีวิตเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้มีชีวิตอยู่
พี่ - น้อง ลองทายเล่นๆดูซิครับว่า การคมนาคมเส้นทางไหนปลอดภัยที่สุดระหว่าง ก. ทางรถยนต์ ข. ทางเครื่องบิน ค. ทางรถไฟ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบที่ถูกต้อง คือ ข้อ ค. การเดินทางโดยทางรถไฟนั้น ถือว่าปลอดภัยที่สุดระดับ
ความปลอดภัยสูงถึง 99 %
จากพระวจนะของพระเจ้าตอนนี้ทำให้เรารู้ว่า โมเสสได้พูดกับชนชาติอิสราเอลว่า ถึงเวลาแล้วที่ชนชาติอิสราเอลต้องเลือกว่า จะเดินตามพระใดระหว่างพระเยโฮวาห์ซึ่งชนชาติอิสราเอลก็ได้เห็นแล้วว่า พระองค์ทรงทำอะไรบ้างในแผ่นดินอียิปต์กับพระที่น่าสะอิด สะเอียน ที่ทำด้วยไม้ ด้วยหิน ด้วยเงินทองซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา
และจากพระวจนะข้อเดียวกัน ทำให้เรารู้ว่าโมเสสได้พูดถึงพระพรที่ชนชาติอิสราเอลจะได้รับพร้อมๆ กับเรียกร้องให้พวกเขาตัดสินใจตั้งแต่เดี๋ยวนี้
คนที่เลือกเดินตาม G เขาจะได้รับการดูแล ปกป้อง คุ้มครอง ให้ปลอดภัยสูงถึง 100 %
คนที่เลือกเดินตาม G เขาจะรู้ว่า G ทรงอยู่ด้วย แม้ในหุบเขาเงามัจจุราช เขาก็จะไม่มีความรู้สึกกลัวแต่อย่างใด
คนที่เลือกเดินตาม G เขาจะได้รับพระพรจากพระเจ้า ในวันที่เขายากลำบากเขาจะมีน้ำและอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์
คนที่เลือกเดินตาม G พระเยซูคริสต์จะเป็นผู้รับประกันชีวิตของเขาต่อพระบิดาเขาจึงไม่ถูกพิพากษาให้ตกไปอยู่ในบึงไฟนรกแต่เขาจะได้ไปอยู่กับพระองค์บนสวรรค์
คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า ? วันนี้พี่ - น้องเลือกเดินตามพระเจ้าหรือยัง
ซีโมนเปโตร พูดกับพระเยซูว่า พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์รักพระองค์ พระองค์เสด็จ
ไปที่ไหน ข้าพระองค์จะตามไปด้วย ข้าพระองค์จะสละชีวิตเพื่อพระองค์ และเปโตร
คนเดียวกันก็ได้ปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระองค์
พี่ - น้องที่รักครับ เลือกเดินตามพระเจ้าไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่ด้วยการกระทำของเรา
พี่ - น้องที่รักครับ ตลอดระยะเวลา 4 - 5 ปีที่ผ่านมาสังคมไทยเผชิญกับทางสองแพร่งเป็นภาวะที่น่าเป็นห่วงมาก
แพร่งที่ 1 คือ รัฐบาลเก่าและรัฐบาลปัจจุบัน แม้ว่าสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้
แต่ไม่อาจปกครองประชาชนทั้งประเทศได้
แพร่งที่ 2 คือ การแบ่งฝัก แบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจนของคมในสังคม การสนทนาพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ถูกมองเป็นเรื่องของการเมือง ซึ่งปัจจุบัน จะพูด จะจา อะไรกับใครต้องระมัด ระวังตัว เพราะไม่อยากให้เกิดความแตกแยกหรืออาจถูกมองว่าสนับสนุน
ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
อย่างไรก็ตามในฐานะพลเมืองไทย และในฐานะที่เราเป็นคริสเตียน เรามีหน้าที่ต้องเลือกและตัดสินใจ โดยไม่อ้างความเป็นกลางจนพร่ำเพรื่อเกินไป เหมือนอย่างบางคนที่เขาทำกัน
สรุป พระวจนะของพระเจ้าในเช้าวันนี้
1. เลือกทำความดี 2. เลือกเอาความจริง และ 3. เลือกเดินตามพระเจ้า อาเมน
หวังว่าทุกคนคงจะเลือกในสิ่งที่ถูกต้องเสมอโดยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์