คำเทศนาเรื่อง การผูกพันตัว
คำเทศนาของผมในช่วง 8-10 สัปดาห์นี้จะอยู่ใน Them เดียวกันนั่นก็คือ เรื่องการผูกพันตัว คำเทศนาแรกคือ 1.ทำไมเราต้องผูกพันตัว 2. การผูกพันตัวกับพระเจ้า 3. การผูกพันตัวกับคริสตจักร 4.การผูกพันตัวกับผู้นำ 5.การผูกพันตัวกับผู้เลี้ยง 6.การผูกพันตัวกับพี่น้อง 7.การผูกพันตัวในกลุ่มเซลล์หรือกลุ่มสามัคคีธรรม 8.การผูกพันตัวในการรับใช้ 9.การไม่ผูกพันตัว
ปฐก.1:1-2 ในเริ่มแรกนั้นพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินโลก แผ่นดินโลกนั้นก็ปราศจากรูปร่างและว่างเปล่าอยู่ ความมืดอยู่เหนือผิวน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือผิวน้ำนั้น และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า การผูกพันตัว
มีเรื่องเล่าว่าอย่างนี้ครับว่า ถ้าเราจะสร้างตึกที่สูง 40 ชั้น โดยใช้คนเพียง 1 คน เราจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้นเป็นเวลา 100 ปี ในขณะเดียวกัน ถ้าเราจะสร้างตึกที่สูง 40 ชั้นโดยใช้คน 40 คน เราจะใช้เวลาก่อสร้างเพียง 2 ปีเท่านั้น
คำถามคือว่า มันแตกต่างกันมากไหมครับ ?
และจากเรื่องเล่านี้ทำให้เราได้ข้อคิดอะไร ? จากเรื่องเล่านี้ทำให้พี่น้องคิดถึงเรื่องของการรวมตัวกันไหมครับ ? การรวมตัวกันก่อให้เกิดพลัง
พลังอะไรครับ ? พลังแห่งการขับเคลื่อนอะไรบางอย่าง
ซึ่งโดยทั่วไป พลังแห่งการรวมตัวกันนี้ โดยส่วนมากแล้วมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่มนุษย์เรานั้นต่างมีความพึงพอใจและต่างมีความไม่พึงพอใจในอะไรบางอย่าง
Ex. การรวมตัวกันของคนไทยทั้งชาติในการ ปั่นเพื่อพ่อ – แม่อันนี้ทุกคนต่างมีความพึงพอใจไหมครับในการรวมตัวกันในลักษณะอย่างนี้
Ex. การรวมตัวกันเพราะ 1.ราคายางพารามันมีราคาที่ตกต่ำอยู่ในเวลานี้ อันนี้ทุกคนต่างมีความพึงพอใจไหมครับในการรวมตัวกันในลักษณะอย่างนี้ ? ไม่มีความพึงพอใจ
ดังนั้นขอให้พี่น้องได้รู้และได้เข้าใจเถิดว่า การรวมตัวกันของมนุษย์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นจากการที่มนุษย์เรานั้นต่างมีความพึงพอใจและต่างมีความไม่พึงพอใจในอะไรบางอย่างทั้งสิ้น
ซึ่งการรวมตัวกันในลักษณะอย่างเช่น Bike For DAD , Bike For MOM พอกิจกรรมนี้จบแล้ว จบเลยไหมครับ ? หรือแม้กระทั่งการรวมตัวกันเพื่อออกมาขับไล่รัฐบาล พอรัฐบาลออกไปแล้ว จบกันไหมครับ ?
คำถามคือว่า การรวมตัวกันนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า การรวมตัวกันนั้นได้เกิดขึ้นตั้งแต่ ปฐก.1:1-2 ณ.ที่แห่งนั้นมีใครรวมตัวอยู่กับใครครับ ? พระเจ้ากับพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้รวมตัวกันอยู่กับตั้งแต่ก่อนเนรมิตสร้างโลกใบนี้ขึ้นมา
กจ.1:5 เพราะว่ายอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำก็จริง แต่ไม่ช้าไม่นานท่านทั้งหลายจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์"
พระคำของพระเจ้าใน กจ.1:5 บอกกับเราว่า ปัจจุบันนี้ผู้เชื่อทุกคนต่างอยู่ในยุคของพระวิญญาณบริสุทธิ์
คำถามคือว่า แล้วพระเจ้าในพระคัมภีร์เดิมตั้งแต่ตอนสร้างโลกยังอยู่กับพวกเราในยุคของพระวิญญาณบริสุทธิ์นี้ด้วยหรือไม่ ? พระเจ้าในพระคัมภีร์เดิมกับพระเจ้าในพระคัมภีร์ใหม่นั้นอยู่ด้วยกันตั้งแต่ตอนสร้างโลกแล้ว
ประการที่สำคัญนี่ไม่ใช่ภาพของการรวมตัวกัน แต่นี่เป็นภาพของการผูกพันตัวต่อกันและกัน ผูกพันตัวต่อกันและกันนานไหม ? จากพระคัมภีร์เดิมจนถึงพระคัมภีร์ใหม่ จากปฐมกาลยันวิวรณ์
การรวมตัวกันของมนุษย์นั้นไม่ว่าจะมีความพึงพอใจหรือมีความไม่พึงพอใจในเรื่องอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายหรือท้ายสุดทุกๆกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวต่างต้องเลิกรากันไป แต่การผูกพันตัวต่อกันและกันของผู้ที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าในที่นี้นั้น มันหมายถึง เลิกลากันไม่ได้
พระคำของพระเจ้าในหนังสือปฐก 1:1-2 ทำให้เราทราบว่า 1.พระเจ้านั้นทรงให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของการผูกพันตัวต่อกันและกันนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกหรือให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้เป็นอย่างมาก 2.การผูกพันตัวต่อกันและกันนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีมาเหนือชีวิตของผู้เชื่อหรือคริสเตียนทุกๆคน
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วผู้เชื่อหรือคริสเตียนทุกๆคนต้องทำไมครับ ? ต่างต้องรับเอาแนวคิดของพระเจ้าในข้อนี้เข้าไปในชีวิตหรือไม่ครับ ? ต้องรับเอาพระวจนะของพระเจ้าในข้อนี้เอาไว้ในชีวิต เพราะสิ่งนี้ถือว่านี่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า
ดังนั้นถ้าพี่น้องคนใดก็ตามที่ไม่รับเอาพระคำหรือน้ำพระทัยของพระเจ้าในบทนี้ , ข้อนี้หรือตอนนี้เข้าไปในการดำเนินชีวิตของเขาแล้ว เขาจะต้องเผชิญกับปัญหาเพียงตามลำพัง เขาจะไม่มีเพื่อนคอย 1.อธิษฐานเผื่อ 2.สนับสนุน 3.ช่วยเหลือ
ให้เราดูพระคำของพระเจ้าใน ปญจ.4:12 “แม้คนหนึ่งสู้คนเดียวได้ สองคนจะสู้เขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้”
พระคำของพระเจ้าใน ปญจ.4:12 บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า แต่ถ้าผู้เชื่อหรือคริสเตียนคนใดก็ตาม ที่รับเอาพระคำของพระเจ้าในตอนนี้เข้าไปในชีวิตของเขา ชีวิตของเขานั้นจะได้รับการ
1.สนับสนุน 2.ส่งเสริม 3.กำลังและเรี่ยวแรงของเขาที่มันกำลังจะหมดไปแต่ในที่สุดแล้วมันจะไม่หมด
พี่น้องที่รักครับ ถ่านติดไฟเมื่อมันอยู่ในเตาหลายๆก้อนรวมกัน มันมีพลังทำอาหารให้สุกได้ แต่ถ้าเราเริ่มเอาถ่านติดไฟออกทีละก้อน ทีละก้อนอาหารจะสุกได้ไหม ?
ชีวิตคริสเตียนของเราก็เช่นเดียวกันพี่น้องที่รักครับ เมื่อเราผูกพันตัวต่อกันและกัน มันทำให้เรามีพลัง มีไฟ แต่เมื่อพี่น้องแยกตัวออกไป ไปผูกพันกับโลก ไปผูกพันกับคนไม่เชื่อ เมื่อพี่น้องมีปัญหามันจะทำให้พี่น้องท้อใจได้
ปฐก.1:1-2 นอกจากจะทำให้เราทราบถึง การที่พระเจ้าทรงผูกพันตัวกับพระวิญญาณของพระองค์แล้ว ปฐก.1:1-2 ยังบอกกับเราถึงการที่พระเจ้านั้น ทรงมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะผูกพันตัวต่อพระวิญญาณของพระองค์อย่างมากด้วย
ดังที่ผมได้กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า พระเจ้าทรงผูกพันตัวกับพระวิญญาณตั้งแต่หนังสือปฐมกาลไปถึงหนังสือวิวรณ์ การผูกพันอย่างนี้ต้องใช้ความมุ่งมั่นตั้งใจไหมครับ ?
การที่พี่น้องมาคริสตจักรฯซึ่งนั่นก็ดีอยู่ แต่การที่พี่น้องไม่เป็นที่รู้จักของพี่น้องคนอื่นๆในคริสตจักรฯเลย นั่นหมายความว่าอะไรนั่นหมายความว่า พี่น้องไม่ได้มีความตั้งใจที่จะผูกพันตัวกับพี่น้องคนอื่นๆในคริสตจักรฯเลย อาจจะกล่าวได้ว่า หากปราศจากความมุ่งมั่นตั้งใจในสิ่งใดแล้ว สิ่งที่เราปรารถนามันไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้เลย
ดังนั้นถ้าพี่น้องเห็นด้วยกับพระวจนะของพระเจ้าใน ปฐก.1:1-2 เกี่ยวกับการผูกพันตัวต่อกันและกัน พี่น้องจะต้องทำอย่างไรครับ ?
ฉลธ.28:13 “ถ้าท่านเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ และระวังที่จะกระทำตาม พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านเป็นหัว ไม่ใช่เป็นหางกระทำให้สูงขึ้นทางเดียว มิใช่ให้ต่ำลง”
คำว่า พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านเป็นหัว ไม่ใช่เป็นหาง คำนี้หมายความว่า มิใช่ให้พี่น้องเป็นผู้ตามแต่ให้พี่น้องเป็นผู้เริ่มต้นที่จะผูกพันตัวกับคนอื่นก่อน และในการเริ่มต้นนั้นก็ให้เริ่มต้นด้วยการเป็นแบบอย่างของ
1.ความกระตือรือร้นและด้วยความจริงใจ
2.ความเชื่อ ทำให้พี่น้องของเรารู้สึกว่า การที่เราไปผูกพันตัวกับเขานั้นทำให้เขามีความเชื่อในพระเจ้าที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่ไปผูกพันตัวกับเขาเพื่อจะชวนเขาไปขายนั่นนี่นู่น หรือชวนเขาไปเพื่อเป้นสารถีขับรถให้เรา
3.การเปิดเผยชีวิตของพี่น้องต่อพี่น้องในคริสตจักรฯที่เราเป็นสมาชิกอยู่ที่ละเล็กที่ละน้อย
4.การหนุนใจคนอื่นที่เขานั้นจะก้าวออกไปเป็นผู้ไปเริ่มต้น ในการที่จะไปผูกพันตัวกับคนอื่นๆต่อไป
คำว่า พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านเป็นหัว ไม่ใช่เป็นหาง คำนี้หมายความว่า มิใช่ให้พี่น้องเป็นผู้ตามแต่ให้พี่น้องเป็นคนเริ่มต้นที่จะผูกพันตัวกับคนอื่นก่อน
เพราะตราบใดก็ตามที่ไม่มีคนเริ่มต้นมันก็จะไม่มีคนถัดไป ไม่มีคนที่หนึ่งมันก็จะไม่มีคนที่สองที่จะตามมาด้วยเช่นเดียวกันดังนั้นพี่น้องควรที่จะเป็นคนที่ฉวยโอกาสในการที่จะเป็นคนเริ่มต้นในการผูกพันตัวต่อกันและกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า ในการผูกพันตัวต่อกันและกันท่ามกลางคนจำนวนมากนั้น เราจะต้องอดทนต่อกันและกันให้มากด้วยไหม ? อดทนนานแค่ไหน
คำตอบคือ ตลอดชีวิต
ให้เรามาดูพระคำของพระเจ้าใน รม.5:4 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “และความอดทนทำให้เกิดมีประสบการณ์ และประสบการณ์ทำให้เกิดมีความหวังใจ” พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า ถ้าเรามีประสบการณ์ในความอดทนต่อพี่น้องของเรามากเท่าไหร่ คนๆนั้นจะเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้การได้มากขึ้น
สรุป
1.พระเจ้าทรงเห็นความสำคัญของการผูกพันตัวต่อกันและกัน
2.เราต้องเห็นความสำคัญของการผูกพันตัวต่อกันและกัน
3.เราต้องเป็นคนเริ่มต้น
3.1 แบบอย่างของความกระตือรือร้นและด้วยความจริงใจ
3.2 แบบอย่างของความเชื่อ
3.3 แบบอย่างของการเปิดเผยชีวิตมากขึ้น
4. ท้าทายพี่น้องคนอื่นออกไปเป็นผู้ไปเริ่มต้นกับคนอื่น
5.ในการผูกพันตัวต่อกันและกันนั้นต้องมีความอดทนมากด้วย