การผูกพันตัวต่อพระเจ้า

คำเทศนาเรื่อง การผูกพันตัวต่อพระเจ้า

2 ทมธ.1:12 เพราะเหตุนั้นเองข้าพเจ้าจึงได้ทนทุกข์ลำบากเช่นนี้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ละอาย เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าได้เชื่อ และข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าพระองค์ทรงฤทธิ์สามารถรักษาซึ่งข้าพเจ้าได้มอบไว้กับพระองค์จนถึงวันนั้น

พี่น้องที่รักครับ ถ้าผมจะเปรียบชีวิตของพวกเราทุกคนในที่นี้เป็นเหมือนดั่งเรือที่แล่นอยู่ในแผ่นน้ำหรือแล่นอยู่ในมหาสมุทร…..

พอเราจะเอาเรือกลับเข้าหาฝั่งสิ่งแรกที่พวกเราจะต้องทำคืออะไรครับ ? เราจะต้องมองหาเสาหรือหลักเพื่อที่จะพันผูกเรือนั้นเอาไว้

ในที่นี่มีพี่น้องคนไหนบ้างไหมครับ ที่พอจะเอาเรือกลับเข้าหาฝั่งแล้ว เขาไม่ต้องการที่จะผูกเรือของตัวเองเอาไว้เลยมีไหมครับ ?

ถ้าเอาเรือกลับเข้าฝั่งแล้วไม่ผูกมันเอาไว้ เรือมันจะค่อยๆลอยออกไปที่แม่น้ำหรือค่อยๆลอยออกทะเลไป

ในที่นี่มีพี่น้องคนไหนบ้างไหมครับ ที่พอจะเอาเรือกลับเข้าหาฝั่งแล้ว เขากับเอาเรือไปผูกไว้กับหลักหรือกับเสาที่ไม่มั่นคงมีไหมครับ ?

ถ้าเอาเรือไปผูกไว้กับหลักหรือเสาที่ไม่มั่นคงเรือมันก็จะค่อยๆลอยออกไปที่แม่น้ำหรือมันจะค่อยๆลอยออกไปที่ทะเลจริงไหมครับ ? ดังนั้นเราก็จะต้องมองหาหลักหรือเสาที่มีความมั่นคงแข็งแรงด้วย

ชีวิตของเราก็เช่นเดียวกันพี่น้องที่รักครับ ที่เรือแห่งชีวิตของเรานั้นก็จะต้องผูกเอาไว้กับเสาหรือหลักที่มีความมั่นคงและมีความแข็งแรงเป็นอย่างมากด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งหลักที่มั่นคงที่สุดในชีวิตของเราที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าอยู่ที่ไหนครับ ? หลักที่มนุษย์ควรผูกเอาไว้ คือ อยู่ที่พระเจ้า

คริสเตียนกับการผูกพันตัวกับพระเจ้านั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นในเช้าวันนี้ให้เรามาดูลักษณะของคริสเตียนที่จะต้องผูกพันตัวกับพระเจ้าว่ามีอะไรบ้าง

ประการที่ 1. ต้องมีความปรารถนา

คำถามคือว่า ปรารถนาอะไร ? ปรารถนาที่จะผูกพันตัวกับพระเจ้า ถ้าพี่น้องไม่มีสิ่งนี้เป็นอันดับแรกสิ่งต่อๆไปมันก็จะไม่เกิดขึ้น

เปาโลได้พูดเอาไว้ใน 2ทมธ.1:12 เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าได้เชื่อ คริสเตียนเราต้องมีความปรารถนานี้นั่นก็คือ การรู้จักกับพระเจ้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่การมีความรู้ในเรื่องราวของพระเจ้า

พี่น้องทราบไหมครับว่า สมาคมพระคริสตธรรมไทยนั้นได้จัดให้มีการแข่งความรู้ทางพระคัมภีร์ในประเภทต่างๆเป็นประจำทุกปี และมีโรงเรียนมากมายหลายโรงเรียนที่ได้ส่งนักเรียนของตัวเองเข้าแข่งขันโดยที่นักเรียนเหล่านั้นโดยส่วนมากนั้นไม่ได้เป็นผู้เชื่อในพระเจ้า

แต่พวกเขามีความรู้เรื่องราวในพระคัมภีร์ไหมครับ ? มี เพราะเขาเป็นเด็กนักเรียนที่รักในการอ่านหนังสือ เขาจึงมีความรู้ในเรื่องราวของพระเจ้า แถมเด็กนักเรียนบางคนที่มาเข้าร่วมในการแข่งขันบางคนยังเรียนโรงเรียนคริสต์อีกต่างหาก

ดังนั้นพวกเขาจึงมีความรู้ในเรื่องราวของพระเจ้ามาก แต่เขามีความปรารถนาจะรู้จักพระเจ้าอย่างแท้จริงไหม ? ไม่

ดังนั้นเราในฐานะที่เป็นผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าอย่าทำ1.ให้เรื่องราวของพระเจ้าเป็นเพียงความรู้ในสมองเท่านั้น 2.ให้คริสต์เป็นศาสนา เพราะคริสต์ไม่ใช่ศาสนาแต่คริสต์เป็นเรื่องของ1.ความสัมพันธ์ 2.การผูกพันตัวระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

ความสัมพันธ์และความสนิทสนมในองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์และหรือการผูกพันตัวของเรากับพระเจ้านี้เองจะเป็นเหตุทำให้เรานั้นมีประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตกับพระองค์

เหมือนดังที่ อ.เปาโล ได้กล่าวเอาไว้ว่า แต่ข้ารู้จักพระองค์ที่ข้าเชื่อ และเชื่อมั่นคงว่า พระองค์ทรงฤทธิ์อาจ ไม่ใช่ด้วยความรู้เรื่องของพระเจ้าในสมอง

คำถามคือว่า คริสเตียนเราจะต้องผูกพันตัวกับพระเจ้าในเรื่องอะไรบ้าง ?

ประการที่ 1.1 อยู่ใน อฟ.5:19 จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการและเพลงฝ่ายจิตวิญญาณ คือ ร้องเพลงสรรเสริญและสดุดีจากใจของท่านถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ผ่านการนมัสการ

ประการที่ 1.2 อยู่ใน 1ธส.5:17 จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ ผ่านการอธิษฐาน ดังนั้นคริสเตียนเราจะต้องผูกพันตัวกับพระเจ้าผ่านการอธิษฐาน

คำถามคือว่า อธิษฐานอย่างไรครับ ? วันเว้นวัน , อธิษฐานกับพระเจ้าในทุกๆวัน สิ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจให้ตรงกันนั่นก็คือว่า

1.การอธิษฐานเป็นการพูดคุยกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว

2.ให้เราอธิษฐานกับพระเจ้าด้วยภาษาพูดของเราและอย่า Copy หรือลอกเลียนแบบคำอธิษฐานของใคร ดังนั้นพี่น้องต้องหาบุคลิกภาพในฝ่ายวิญญาณในเรื่องของการอธิษฐานของพี่น้องตรงนี้ให้เจอ

ในขณะเดียวกันเมื่อพี่น้องอธิษฐานกับพระเจ้าไปได้สักครู่หนึ่งแล้วพี่น้องไม่สามารถที่จะอธิษฐานกับพระเจ้าต่อไปด้วยภาษาของมนุษย์

ให้เราทำอย่างไรครับ ? หยุดที่จะอธิษฐานหรือให้เราทำอย่างไรครับ ?

รม.8:26 พระวิญญาณก็ทรงช่วยเราเมื่อเราอ่อนกำลังด้วยเช่นกัน เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรจะอธิษฐานขอสิ่งใดอย่างไร แต่พระวิญญาณเองทรงช่วยขอเพื่อเราด้วยความคร่ำครวญซึ่งเหลือที่จะพูดได้

รม.8:26 บอกกับเราอย่างชัดเจนว่าเราจะต้องมีความสนิทสนม เราจะต้องผูกพันตัวกับพระองค์อย่างลึกซึ้งโดยการอธิษฐานกับพระเจ้าต่อไปด้วยภาษาของพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือภาษาแปลกๆ

1 คร.14:2 เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่พูดภาษาต่างๆได้ ไม่ได้พูดกับมนุษย์ แต่ทูลต่อพระเจ้า เพราะว่าไม่มีมนุษย์คนใดเข้าใจได้ แต่เขาพูดเป็นความลึกลับฝ่ายจิตวิญญาณ

1 คร.14:2 บอกกับเราว่า เพราะการอธิษฐานด้วยภาษาของพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือภาษาแปลกๆนั้นไม่ได้เป็นการอธิษฐานกับมนุษย์แต่เป็นการอธิษฐานกับพระเจ้า

เมื่อพี่น้องมีการอธิษฐาน มีการพูดคุยกับพระเจ้าในทุกๆวัน ความสัมพันธ์หรือความสนิทสนมของเรากับพระเจ้าจะดีขึ้นไหมครับ ? แต่เบื้องหลังที่พี่น้องจะสามารถพุดคุยกับพระเจ้าได้ในทุกๆวันนั้นมันต้องมาจาก ความปรารถนาที่พี่น้องนั้นอยากที่จะรู้จักกับพระเจ้าอย่างลึกซึ้งจริงๆ

คริสเตียนเราจะต้องผูกพันตัวกับพระเจ้าในเรื่องอะไรบ้าง ?

ประการที่ 1.3 ฮบ. 4:12 “เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย”

ฮบ.4:12 บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า คริสเตียนเรานั้นสามารถที่จะมีความสนิทสนมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือผูกพันตัวกับพระเจ้าได้ ผ่านการเฝ้าเดี่ยวหรือผ่านการอ่านพระคัมภีร์

เพราะการอ่านพระคำของพระเจ้าเป็นเหตุทำให้ 1.เรานั้นได้รู้จักกับพระเจ้าได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น 2.พระเจ้านั้นทรงตรัสหรือทรงพูดกับเราเป็นการส่วนตัวได้ 3. เรานั้นจะได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ได้ แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ไหมครับ ? ถ้าเราไม่ได้มีความปรารถนาในการที่จะผูกพันตัวกับพระองค์

คริสเตียนเราจะต้องผูกพันตัวกับพระเจ้าในเรื่องอะไรบ้าง ?

ประการที่ 2 การเข้าหาพระเจ้าก่อนเสมอโดยเฉพาะในยามเมื่อเขามีปัญหา ซึ่งโดยส่วนมากมนุษย์เราเมื่อมีปัญหามักจะคิดถึงมนุษย์ก่อนเสมอจริงหรือไม่จริงครับพี่น้อง ?

ดังนั้นสิ่งที่แสดงออกอย่างชัดเจนประการหนึ่งของผู้เชื่อที่ผูกพันตัวกับพระเจ้านั่นก็คือ การเข้าหาพระเจ้าก่อน การเข้าหาพระเจ้าก่อนแสดงถึงความไว้วางใจในพระองค์

ในทางตรงกันข้าม เมื่อเรามีปัญหาและเราเข้าหามนุษย์ก่อนแสดงว่า 1.เรามีความไว้วางใจในมนุษย์ที่ไม่ได้สร้างเราขึ้นมามากกว่าที่จะไว้วางใจพระเจ้าที่เป็นผู้สร้างเราขึ้นมา 2.เรามีความไว้วางใจในมนุษย์มากกว่าพระเจ้า

คำถามก็คือว่า คนที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า เขาจะมีวิธีในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ?

ประการที่ 2.1 สดด.20:2 “ขอพระองค์ทรงให้ความช่วยเหลือมาจากสถานบริสุทธิ์ และทรงเพิ่มกำลังให้แก่ท่านมาจากเมืองศิโยน” พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า การนมัสการ 1.เป็นกุญแจแห่งการปลดปล่อยการช่วยเหลือ 2. สามารถที่จะเอาชนะอุปสรรคปัญหาได้

คนที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า เขาจะมีวิธีในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ?

ประการที่ 2.2 มธ.7:7 “จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน” ยก.5:16 “คำอธิษฐานด้วยใจร้อนรนอย่างเอาจริงเอาจังของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังมากทำให้เกิดผล”

คนที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า เขาจะมีวิธีในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการอธิษฐานขอ คำถามคือว่า ขอกับใคร ? พระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ก่อน

ซึ่งนั่นหมายความว่า เราจะต้องทำในส่วนของเราก่อนเป็นอันดับแรก เช่น อธิษฐานกับพระเจ้าอย่างร้อนรน อย่างเอาจริง เอาจัง ถืออดอาหารอธิษฐานกับพระเจ้า ปล้ำสู้กับพระเจ้าเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา เราจะต้องทำในสิ่งนี้ก่อนแล้วส่วนที่เหลือ ส่วนที่เราทำไม่ได้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะทรงเป็นผู้กระทำจะทรงเป้นผู้ทรงโปรดเพิ่มเติมในสิ่งที่ยังขาดอยู่นี้ให้ Ex.คจ.สุรินทร์

คนที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า เขาจะมีวิธีในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ?

ประการที่ 2.3 สดด.119:105 พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่มรรคาของข้าพระองค์

คนที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า เขาจะมีวิธีในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการอ่านถ้อยคำของพระเจ้าและพูดถ้อยคำนั้นด้วยความเชื่อมั่น 1.ในความรักของพระเจ้าที่มีต่อลูกของพระองค์ 2.ในพระสัญญาของพระองค์และด้วยความไว้วางใจในพระเจ้าและนี่คือลักษณะหรือท่าทีของผู้เชื่อที่มีการผูกพันตัวกับพระเจ้า

คำถามคือว่า พี่น้องมีสิ่งนี้ไหมในชีวิตในการติดตามพระเจ้า

ลักษณะของคริสเตียนที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า

ประการที่ 3 อยู่ใน 2 คร.5:17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไป ดูเถิด สิ่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น

คนที่ผูกพันตัวต่อพระเจ้า เขาย่อมให้พระเจ้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ในทางตรงกันข้าม คนที่ไม่ผูกพันตัวต่อพระเจ้า เขาจะยอมให้พระเจ้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไหมครับ ?

พี่น้องที่รักครับ หมออาจจะทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้กับมนุษย์ได้ แต่หมอไม่สามารถที่จะผ่าตัดเปลี่ยนนิสัยให้กับมนุษย์ได้ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นจริงๆพี่น้องที่รักครับ ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของมนุษย์ได้

ผู้เชื่อที่ผูกพันตัวกับพระเจ้าและยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงเขาคนนั้นจากภายในสู่ภายนอกภาษาอังกฤษใช้คำว่า From inside Out

Ex.เช่น เปลี่ยนจากใจที่เกลียดชังผู้คน เปลี่ยนมาเป็นใจที่มีความรัก ความเมตตาผู้คน เปลี่ยนจากคนที่หยิ่งยโส เปลี่ยนมาเป็นคนที่มีจิตใจที่ถ่อมลง

คุณค่าของการที่เราผูกพันตัวกับพระเจ้าและเรายอมที่จะให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราคือการที่เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าคุณภาพทางฝ่ายกายภาพหรือคุณภาพทางฝ่ายจิตวิญญาณ

คุณภาพทางฝ่ายกายภาพ เช่น คุณภาพทางความคิด คุณภาพของการดำเนินชีวิต คุณภาพของการเรียนดีขึ้นและดีขึ้นเป็นต้น

คุณภาพทางฝ่ายจิตวิญญาณ เช่น ความเชื่อดีขึ้น การนมัสการ การอธิษฐานดีขึ้น ทัศนคติต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ท่าทีของการสนองตอบต่อปัญหาดีขึ้น และนี่คือการอัศจรรย์ที่แท้จริง

ลักษณะของคริสเตียนที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า ประการที่ 4 อยู่ใน 1 ทมธ.3:1 คำนี้เป็นคำจริง คือว่าถ้าชายคนใดปรารถนาหน้าที่ผู้ดูแล คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ

ผู้เชื่อที่ผูกพันตัวต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง เขาต้องยอมโดยการให้พระเจ้าใช้เขา

4.1 ด้วยความเต็มใจ ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานที่มีเกียรติหรืองานที่ต่ำต้อยดูเล็กน้อยก็ตาม ผู้เชื่อที่ผูกพันตัวต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง เขาต้องยอมโดยการให้พระเจ้าใช้เขาอย่าง

4.2 ไม่มีเงื่อนไข ไม่มี ไม่มีแต่ ไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าเราจะมีความพร้อมหรือไม่พร้อมก็ตาม Ex.เช่น พันธกิจลูกที่ จ.เพชรบุรี เราอาจจะมีความไม่พร้อมทางด้านการเงิน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริง

แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อที่ผูกพันตัวกับพระเจ้า เราต้องรู้ว่า พระองค์ผู้ทรงเรียกท่าน พระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ ใครทำให้สำเร็จครับ ? 1.เราเป็นเพียงภาชนะที่ให้พระเจ้าใช้เท่านั้น 2.แต่เราต้องมีหัวใจในการตอบสนองโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นก่อน

ประการที่ 4.3 ผู้เชื่อที่ผูกพันตัวต่อพระเจ้าอย่างแท้จริงเขาจะยอมให้พระเจ้าใช้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น

องค์พระเยซูคริสต์เจ้าเสด็จเข้ามาในโลกนี้โดยหวังสิ่งตอบแทนใดๆไหมครับ ? พระองค์ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น

ดังนั้นผู้เชื่อที่ผูกพันตัวต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง แม้เขาจะมีเงินเดือนหรือไม่มีเงินเดือน คนที่ผูกพันตัวต่อพระเจ้าอย่างแท้จริงเขาก็มีความยินดีในการที่จะปรนนิบัติและรับใช้พระเจ้าต่อไป และด้วยความเต็มใจไม่ใช่ด้วยการฝืนใจ

 

สรุป การผูกพันตัวต่อพระเจ้า

ประการที่ 1. ต้องมีความปรารถนาที่จะผูกพันตัวกับพระเจ้า

ผ่าน 1.1 การนมัสการ 1.2 การอธิษฐาน 1.3 การอ่านพระคัมภีร์

ประการที่ 2 เมื่อยามเมื่อมีปัญหาต้องเข้าหาพระเจ้าทุกครั้งก่อนเสมอ

ประการที่ 2.1 ผ่านการนมัสการเป็นกุญแจแห่งการปลดปล่อยการช่วยเหลือ ที่เราจะเอาชนะอุปสรรคปัญหาได้

ประการที่ 2.2 ผ่านการอธิษฐานแสดงออกถึงการที่เราต้องทำในส่วนของเรา

ประการที่ 2.3 ผ่านการอ่านพระคำและเชื่อมั่นในพระคำหรือในพระสัญญา

ประการที่ 3 ต้องยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิต

ประการที่ 4 ต้องยอมให้พระเจ้าใช้ในงานของพระองค์

ประการที่ 4.1 ด้วยความเต็มใจ

ประการที่ 4.2 ไม่มีเงื่อนไข ไม่มี ไม่มีแต่ ไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น

ประการที่ 4.3 ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น

Green City