คำเทศนาเรื่อง ความจริงเกี่ยวกับการอธิษฐาน 1
ข้อพระพระคัมภีร์ที่ผมจะใช้เป็นกุญแจ ในการแบ่งปันกับพี่ - น้องในเช้าวันนี้จะอยู่ใน 1ธสก.5:17 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ ให้เราได้ร่วมใจกันอิษฐาน
มีเรื่องเล่าว่า มีผู้รับใช้ของพระเจ้าท่านหนึ่งได้ถามท่าน ศจ. ดร. โช ยอง กี ซึ่งท่านเป็นศิษยาภิบาลคริสตจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพี่ - น้องสมาชิกอยู่ในคริสตจักรของท่านเป็นจำนวนหลายแสนคน
ผู้รับใช้ของพระเจ้าท่านนี้ถามท่าน ศจ. ดร. โช ยอง กี ด้วยคำถามที่ยากมากๆและถ้าเป็นคนอื่นตอบหรือผมตอบอาจจะต้องตอบยาวก็ได้ ผู้รับใช้ของพระเจ้าท่านนี้ถามว่า ดร. โช ครับ ท่านมีเคล็ดลับอะไร ถึงทำให้คริสตจักรของท่าน จึงเป็นคริสตจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ ?
ดร. โช ยอง กี ตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบาสั้นๆว่า เคล็ดลับของผมมีอยู่เพียงแค่ 3 ข้อเท่านั้น ข้อที่ (1) นั่นก็คือ อธิษฐาน ข้อที่ (2) นั่นก็คือ อธิษฐาน และข้อที่ (3) นั่นก็คือ อธิษฐาน
มีคริสเตียนคนหนึ่งได้ถามท่าน ศจ.ดร. บิลลี่ เกรแฮม ผู้ประกาศข่าวประเสริฐชาวสหรัฐอเมริกาว่า เคล็ดลับในการประกาศข่าวประเสริฐที่ประสบความสำเร็จในการรับใช้ของท่านนั้นคืออะไร ? ดร. บิลลี่ เกรแฮม ตอบว่า ตลอดระยะเวลา 40 ปีในการรับใช้ของเขานั้น เขามีเคล็ดลับอยู่ 3 ประการ นั่นก็คือ อธิษฐาน อธิษฐาน และอธิษฐาน
พี่ - น้องที่รักครับ ทั้งสองเรื่องที่ได้กล่าวมานั้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องจริงที่ในวงการของผู้รับใช้พระเจ้าหรือในวงการของคริสเตียนนั้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างรับรู้และรับทราบกันเป็นอย่างดีอีกด้วย
ดังนั้นการอธิษฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมั้ยครับพี่ - น้อง ? ถ้าร่างกายต้องการอาหารและถ้าปอดต้องการอากาศฉันใด ชีวิตในฝ่ายจิตวิญญาณของคริสเตียนก็ต้องการๆ อธิษฐานฉันนั้น อาจจะกล่าวอีกนัยยะหนึ่งก็ได้ว่าชีวิตคริสเตียนจะอยู่ไม่รอดถ้าคริสเตียนไม่อธิษฐาน
ถ้าเราเปรียบการอธิษฐานเหมือนกับการขี่รถจักรยาน 2 ล้อ ถ้าเราไม่ยอมถีบรถจักรยาน ในที่สุดรถจักรยานนั้นมันจะเป็นอย่างไรครับ ? มันก็จะล้มเอง เช่นเดียวกับการที่เราหยุดอธิษฐานชีวิตคริสเตียนของเราก็อาจจะล้มลงได้
ดังนั้นคำถามเมื่อสักครู่ ที่ถามพี่ - น้องว่าการอธิษฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมั้ย ?
คำตอบก็คือ การอธิษฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
นักเปียโนระดับโลกคนหนึ่งชื่อว่า ปากาลูสกี้ ได้กล่าวไว้อย่างน่ารับฟังมากๆว่า ถ้าเขาหยุดฝึกซ้อมเปียโน 1 วัน ตัวเขาเองจะรู้สึกได้ว่าฝีมือการดีดเปียโนของเขานั้นมีการเปลี่ยนแปลง พี่ - น้องคิดว่ามันจะพัฒนาขึ้นหรือพัฒนาลงครับ ?
ปากาลูสกี้ บอกว่าถ้าเขาหยุดฝึกซ้อมเปียโนไม่ต้องมากเพียงแค่ 2 วัน เพื่อนๆในวงของเขาจะรู้โดยทันที และถ้าหยุดฝึกซ้อมเปียโนสัก 3 วัน เขาบอกว่าคนฟังก็จะรู้และสังเกตเขาได้ในทันทีว่าเขาไม่รับผิดชอบต่อคนฟัง
การอธิษฐานก็เช่นกันถ้าคริสเตียนหยุดอธิษฐาน 1 วัน คริสเตียนคนนั้นจะรู้ถึงชีวิตในฝ่ายจิตวิญญาณของตน ถ้าคริสเตียนคนนั้นหยุดอธิษฐาน 2 วัน เพื่อนคริสเตียนที่ใกล้ชิดกับเขาก็จะรู้ได้และถ้าคริสเตียนคนนั้นหยุดอธิษฐาน 3 วัน สมาชิกในคริสตจักรก็จะรู้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นผมขออนุญาตถามพี่ - น้องอีกครั้งหนึ่งว่า การอธิษฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมั้ย
ให้พี่ - น้องบอกกับคนข้างซ้าย ข้างขวาว่า การอธิษฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
โดยประสบการณ์และจากการค้นคว้าโดยส่วนตัว อย่างละเอียดและถี่ถ้วนแล้ว ผมพบว่า ไม่มีคริสเตียนคนใดในโลกนี้ที่จะมีชีวิตในฝ่ายจิตวิญญาณที่เข้มแข็งได้โดยไม่อธิษฐาน
โดยประสบการณ์และจากการค้นคว้าโดยส่วนตัว อย่างละเอียดและถี่ถ้วนแล้ว ผมพบว่า ไม่มีคริสตจักรใดในโลกนี้ที่จะเข้มแข็งในฝ่ายจิตวิญญาณได้โดยไม่อธิษฐาน
ดังนั้นถ้าพี่ - น้องต้องการที่จะเติบโตกับพระเจ้า พี่ - น้องจะต้องอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นถ้าพี่ - น้องต้องการให้การรับใช้ของพี่ - น้องเกิดผลพี่น้องต้องอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ
องค์พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ทรงดำรงชีวิตเป็นแบบและเป็นอย่างที่ดีเลิศให้กับเราในทุกด้าน ถ้าเราจะพูดเฉพาะด้าน เช่น
ในด้านของการอธิษฐาน เราก็จะพบว่าพระอาจารย์ของเราคือ องค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นพระองค์ทรงเป็นนักอธิษฐาน ถ้าเราอ่านพระกิตติคุณทั้ง 4 เล่ม เราก็จะพบว่า พระองค์ทรงเป็นนักอธิษฐานอย่างแท้จริงๆ ซึ่งพระคริสตธรรมคัมภีร์ก็ได้มีการบันทึกไว้อย่างชัดเจนใน
ลก. 6 : 12 ว่าพระองค์ทรงอธิษฐานตลอดทั้งคืน
มก. 1 : 35 ว่าพระองค์ทรงตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะอธิษฐาน
มก. 6 : 46 ว่าพระองค์ทรงอธิษฐานคนเดียวโดยแยกออกไปอธิษฐานตามลำพัง
ลก. 9 : 29 ว่าพระองค์ทรงอธิษฐานในที่สาธารณะ รวมทั้งในทุกที่ทุกแห่งไม่เว้นแม้แต่บนไม้กางเขน
พี่ - น้องที่รักครับ จากการที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างในการอธิษฐานที่ดีเลิศนี้เองทำให้สาวกของพระองค์ทั้ง 12 คนเกิดความประทับใจมากจนมีครั้งหนึ่งที่พวกสาวกของพระองค์ต้องทำไมครับ ? มธ. 6:9-13 ต้องขอให้พระเยซูคริสต์ช่วยสอนพวกเขาให้อธิษฐาน
นี่เองจึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้ผมมักจะพูดกับพี่ - น้องในคริสตจักรอยู่เสมอๆว่าให้พี่ - น้องออกเสียงในการอธิษฐานเพราะอะไรพี่ - น้องทราบหรือยัง ? เพราะการออกเสียงอธิษฐานทำให้
1)พี่ - น้องที่อยู่ใกล้ๆ มีใจที่อยากจะอธิษฐานเป็นเหมือนคุณ
2)พี่ - น้องที่อยู่ใกล้ๆ ได้รับกำลังเหมือนพี่ - น้องกำลังอธิษฐานเผื่อเขาอยู่
3)พี่เลี้ยง - ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณทราบว่าพี่ - น้อง เติบโตในคำอธิษฐานมากน้อยแค่ไหน
และนี่คือชีวิตแห่งการอธิษฐานของพระอาจารย์ของเรา และพระองค์ทรงสถิตอยู่ภายในเรา ดังนั้นผมจึงขอวิงวอนพี่ - น้องทั้งหลายให้มีชีวิตในฝ่ายจิตวิญญาณ เหมือนกับพระอาจารย์ของเรานั่นคือ จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ
ในขณะเดียวกัน ถ้าพี่ - น้องได้ศึกษาชีวิตแห่งการอธิษฐานของสาวกทั้ง 11 คน จากพระกิตติคุณทั้ง 4 เล่ม เราจะไม่ค่อยพบชีวิตแห่งการอธิษฐาน ของสาวกทั้ง 11 คน ของพระเยซูสักเท่าไหร่นัก เช่น เราจะไม่พบเรื่องสาวกของพระเยซู แยกตัวออกไปอธิษฐานตามลำพังหรืออธิษฐานตลอดคืนในพระกิตติคุณ ในขณะเดียวกันในเวลาที่สาวกทั้ง 11 คนควรจะอธิษฐานร่วมกับพระอาจารย์ของพวกเขา โดยเฉพาะในเวลาที่พระองค์ทรงร้อนพระทัยนัก แต่พวกเขาพากันทำอย่างไรครับ ?
ลก.22:44-45 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า แต่พวกสาวกกับพากันนอนหลับสบายพากันหลับสบายทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
เวลานี้คริสเตียนทั่วประเทศ กำลังพากันอธิษฐานถืออดอาหาร 40 วัน เพื่อสำแดงความร้อนใจเกี่ยวกับเรื่อง ความซื่อสัตย์ของผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ ว่ามันเป็นปัญหามานานแล้วและจะเป็นปัญหามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ขอบคุณพระเจ้าที่เครือข่ายอธิษฐานอวยพรประเทศไทย โฟกัสหรือจับเรื่องนี้มาเป็นหัวข้อของการอธิษฐานในปีนี้ แต่ก็คริสเตียนบางคนและหลายคนที่กำลังพากันนอนหลับสบาย ไม่สนใจหรือทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน
พี่ - น้องคิดว่าว่ามีผู้เชื่อหรือคริสเตียนแบบนี้มั้ยครับ ? อย่าให้เราเป็นเหมือนกับพวกสาวกของพระเยซูคริสต์ในคืนนั้น อย่างไรก็ตามพี่ - น้องที่รักครับ เราเริ่มที่จะเห็นชีวิตแห่งการอธิษฐานของสาวกขององค์พระเยซูคริสต์ทั้ง 11 คน อย่างเอาจริงเอาจังได้ ตั้งแต่พระธรรมกิจการเป็นต้นไป เช่น
กจ. 1 : 14 สาวกของพระเยซูอธิษฐานอยู่บนห้องชั้นบน
กจ. 2 คริสตจักรอุบัติขึ้นโดยการอธิษฐาน
กจ. 3 : 1 อัครฑูตเปโตรและยอห์น ได้ตั้งเวลาอธิษฐานของเขาในการอธิษฐานที่บริเวณพระวิหาร
กจ. 4 : 31 สาวกอธิษฐานขอความกล้าหาญ
กจ. 5 : 15 เราจะเห็นถึงฤทธิ์อำนาจของการอธิษฐาน ที่แม้แต่เงาของผู้ที่เปี่ยมด้วยการอธิษฐานก็สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้
กจ. 6 : 4 สาวกบอกว่าหน้าที่หลักของเขาคือ การขะมักขะเม้นในการอธิษฐาน เพื่อจะประกาศพระวจนะให้เกิดผล
กจ. 7 : 53 เราจะเห็นการเป็นพยานและการอธิษฐานของสเตเฟน
กจ. 8 : 14 - 16อัครฑูตเปโตรและยอห์นก็ได้เดินทางไปสะมาเรีย เพราะทราบว่าชาวสะมาเรียรับพระกิตติคุณ ท่านทั้งสองจึงได้อธิษฐานให้พวกเขารับพระวิญญาณบริสุทธิ์
ดังนั้นเราอาจจะกล่าวอีกนัยยะหนึ่งก็ได้ว่า เกือบจะทุกบทของพระธรรมกิจการนั้นจะมีการอธิษฐานของสาวกของพระเยซูคริสต์อยู่ด้วยเสมอ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าชีวิตแห่งการอธิษฐานของสาวกของพระเยซู ในพระธรรมกิจการนั้น มีความแตกต่างจากชีวิตแห่งการอธิษฐานจากหนังสือพระกิตติคุณทั้ง 4 เล่มอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะถ้าพี่ - น้อง ได้ศึกษาลึกลงไปสักนิดหนึ่ง พี่ - น้องก็จะได้เห็นถึงข้อเปรียบเทียบระหว่างพระกิตติคุณทั้งสี่เล่มกับพระธรรมกิจการ
พี่ - น้องยังจำได้ใช่มั้ยครับว่า ในเวลาที่สาวกควรที่จะอธิษฐานร่วมกับพระอาจารย์ของพวกเขา แต่พวกเขากับทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนหรือกับนอน โดยที่ไม่สนใจอะไร แต่ในพระธรรมกิจการเรากับพบว่าเวลาที่พวกเขาควรจะนอน แต่พวกเขากลับอธิษฐาน เช่น ตอนที่เปาโลและสิลาสถูกจับและถูกคุมขังในฟิลิปปี มือและขาถูกล่ามโซ่ หลังถูกเฆี่ยนแต่เขากลับร้องเพลงในตอนดึก
พระธรรมกจ.12:5-11 เมื่ออัครฑูตเปโตรถูกจำคุกผู้เชื่อในคริสตจักรควรที่จะนอนกลับไม่นอน เขาทำไมกันครับ ? เขาได้พากันอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อทำให้เปโตรพ้นจากคุก
ดังนั้นฉากแรกของพระธรรมกิจการตั้งแต่บทที่ 1 เป็นต้นไปจึงทำให้เรารู้ว่าชีวิตแห่งการอธิษฐานของสาวกพระเยซูนั้นได้เปลี่ยนไป เอาจริง เอาจังมากขึ้น กระตือรือร้นมากขึ้น
คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า อะไรที่ทำให้ชีวิตแห่งการอธิษฐานของสาวกของพระเยซูคริสต์ถึงได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ? เราพบว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้
พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าทำให้สาวกของพระเยซูหิวกระหายในการอธิษฐาน
พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าสอนให้สาวกทั้ง 11 คน ของพระเยซูรู้ว่าพวกเขาจะอธิษฐานเหมือนกับพระอาจารย์ของเขาได้อย่างไร
ผมอยากท่ะบอกกับพี่ - น้องอย่างสัตย์ซื่อว่า ในช่วงของการถืออดอาหารอธิษฐาน 40 วันนี้ เป็นเวลาที่ดีที่คริสเตียนทั่วประเทศ ได้มีโอกาสอธิษฐานร่วมกันภายในหัวข้อเดียวกัน แต่จะดีและดีมากๆถ้าเราแสวงหาพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า ผมเชื่ออย่างมั่นใจว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า จะทรงนำหัวข้อในการอธิษฐานที่พิเศษนี้ให้แก่คริสตจักร และจะทรงนำหัวข้อในการอธิษฐานที่พิเศษนี้ให้กับพี่ - น้องเป็นการส่วนตัวด้วยเช่นเดียวกัน
พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อพี่ - น้องอธิษฐานกับพระเจ้า พระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานของเรา 4 แบบด้วยกัน
แบบที่ 1 คือ yes (ในทันที) แบบที่ 2 คือ no (ปฏิเสธ)
แบบที่ 3 คือ wait (รอไปก่อน) แบบที่ 4 คือ opposite ตรงกันข้ามกับที่เราขอ
แบบที่ 1 คือ คำอธิษฐานที่พระเจ้าจะทรงตอบ yes ในทันที
คำถามคือว่า คำอธิษฐานแบบไหนที่พระเจ้าจะทรงตอบ yes (ทันที) พระคำของพระเจ้าในหนังสือ 1 ยน.1:9 ตรัสกับเราดังนี้ว่า
ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ผู้ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมก็จะยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น
พระคัมภีร์บอกว่าถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์จะไม่บอกว่าอาทิตย์หน้าหรืออาทิตย์ไหนถึงจะยกโทษให้กับเราแต่พระคัมภีร์บอกกับเราว่า
พระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐาน โดยการยกโทษ ชำระและลบล้างบาปนั้น ให้กับเราในทันที คำอธิษฐานแบบไหนที่พระเจ้าจะทรงตอบเราในทันที
1.ถ้าเราอธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้าเพื่อที่เราจะดำรงชีวิต ให้เป็นที่ถวายพระเกียรติยศแด่พระเจ้า พระองค์จะตอบเราในทันทีไหมครับพี่ - น้อง ? โดยจะประทานสติปัญญาให้แก่เรา
2.ถ้าเราอธิษฐานขอให้เรามีชัยชนะเหนือการทดลอง พระองค์จะตอบเราในทันทีไหมครับ
3.ถ้าพี่ - น้องอธิษฐานขอให้พี่ - น้องได้รู้และเข้าใจถึงของประทานของเราอย่างชัดเจน เพื่อที่พี่ - น้องจะปรนนิบัติรับใช้พระองค์พระองค์จะตอบคำอธิษฐานนั้นๆ ในทันที
ผมขอบคุณและสรรเสริญถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ที่คุณยายวีได้อธิษฐานขอ
สติปัญญาจากพระเจ้า และพระเจ้าก็ได้ให้สติปัญญาและของประทานกับคุณยายอย่างชัดเจน และผมมักจะยกเสียงฮาเลลูยาทุกครั้งที่ได้รับรายงานจากภรรยาว่ายายวีได้แต่งเพลงเพิ่มอีก 1เพลงแล้วนะ
พี่ - น้องที่รักครับ คำอธิษฐานในฝ่ายวิญญาณไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆก็ตาม ที่จะนำพระเกียรติ พระสิริและพระรัศมีภาพมาสู่พระเจ้า พระบิดาของเรา เรื่องเหล่านั้นพระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานในทันที
แบบที่ 2 คือ คำอธิษฐานที่พระเจ้าทรงตอบ no (ปฏิเสธ)
คำถามคือว่า คำอธิษฐานแบบไหนที่พระเจ้าทรงตอบ no ( ปฏิเสธ )
พระคำของพระเจ้าใน ยก.4:3 ตรัสดังนี้ว่า ท่านขอและไม่ได้รับเพราะท่านขอผิด หวังได้ไปเพื่อสนองกิเลสตัณหาของท่าน
คำอธิษฐานในลักษณะอย่างนี้แหละที่พระเจ้าไม่ฟัง ซึ่งโดยแท้จริงแล้วเมื่อท่านขอผิดพระเจ้าให้ท่านได้มั้ยครับ ? ได้ แต่พระเจ้าทรงรักท่านอย่างแท้จริง พระองค์จึงให้ในสิ่งนั้นแก่ท่านไม่ได้
ตรงกันข้ามกับพ่อ - แม่ในปัจจุบันนี้บางคน บางครอบครัวที่รักลูก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมากๆ แต่สิ่งที่ไม่ดีนั่นก็คือ พ่อ - แม่ที่รักลูกหลายคน ตอบรับข้อเรียกร้องหรือข้อเสนอของลูกซะทุกอย่าง เช่น น้องหมูแฮม เป็นต้น จึงเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อ 1 ปีกว่าๆที่ผ่านมา
ที่สหรัฐอเมริกาพ่อ - แม่หลายคนตอบรับคำขอของลูกชาย โดยการซื้อปืนให้ แล้วเป็นอย่างไรครับ ? มีข่าวที่หน้าสลดเกิดขึ้นได้เป็นประจำทุกปี
ที่ประเทศไทยบ้านเราพ่อ - แม่หลายคนตอบรับคำขอของลูกชายโดยการซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่มีความสามารถในการหารายได้เลย แล้วเป็นไงครับพี่ - น้อง ? ที่เห็นๆก็คือ โฉบไป โฉบมา แล้วเป็นไงได้เรื่อง มีงานเข้าอีกเพียบเลยทีนี้
พี่ - น้องที่รักครับ พระเจ้าของเรานั้น พระองค์ทรงมีเหตุมีผล พระองค์จะไม่ทำอย่างนี้กับลูกๆของพระองค์อย่างเด็ดขาด ดังนั้นคำอธิษฐานในลักษณะที่สนองต่อกิเลสตัณหาและบำรุงบำเรอเนื้อหนังหรือความต้องการของตนเองนั้นพระเจ้าฟังแต่ให้ไม่ได้
นอกเหนือจากการที่เราขอผิดแล้วมันยังมีอะไรอีกไหม ที่เราอธิษฐานแล้วพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานของเรา คำตอบคือมี ? เช่น
การไม่ติดสนิท การขาดความเชื่อ การมีรูปเคารพในใจ
ความบาปชั่วของเรา การปฏิบัติต่อคู่สมรส การไม่เชื่อฟังบิดา - มารดา
การที่เราวิญญาณแห่งการเห็นแก่ตัว การที่เรามีวิญญาณแห่งการไม่ให้อภัย เป็นต้น
สิ่งต่างเหล่านี้ ถ้ามีอยู่ในชีวิตของพี่ - น้อง พระเจ้าก็ไม่เพิกเฉยต่อคำอธิษฐานของท่าน แต่พระเจ้ายังตอบคำอธิษฐานของท่านไม่ได้ นอกเสียจากพี่ - น้องจะต้องจัดการกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ในชีวิตของพี่ - น้อง หรือในครอบครัวของพี่ - น้องให้เรียบร้อยเสียก่อน
ไม่เพียงเท่านั้นพี่ - น้องที่รัก พระคริสตธรรมคัมภีร์ ก็ได้มีการบันทึกเอาไว้ว่ามีหลายเรื่อง หลายกรณีที่คนของพระเจ้าหรือชุมชนของพระเจ้า อธิษฐานแล้วพระเจ้าฟัง แต่ไม่ตอบ เช่น บาปของอาคาน ที่พระคำของพระเจ้าได้บันทึกเอาไว้ใน ยชว.7:10-12
ดังนั้นอย่าให้บาปของผู้เชื่อใน คจ.ใจสมานสมุทรสงครามแห่งนี้ เพียงคนเดียวหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เป็นเหตุทำให้พระเจ้าเพียงฟังคำอธิษฐาน แต่ไม่ตอบคำอธิษฐานของคนทั้งชุมชนหรือทั้งคริสตจักร เพราะฉะนั้นให้พี่ - น้องลุกขึ้นที่ชำระตัวให้บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลาเสมอเพื่อที่พระเจ้าจะทรงโปรดฟังคำอธิษฐานของท่าน
แบบที่ 3 คือ คำอธิษฐานที่พระเจ้าทรงให้รอไปก่อน ( wait )
พี่ - น้องที่รักครับ หลายครั้งที่เราพบว่า คำอธิษฐานของเรานั้นเป็นที่ชอบพอพระทัยของพระเจ้า เช่น เราอธิษฐานขอให้สามีหรือภรรยาของเรา ได้มารู้จักกับพระเยซู แต่ดูเหมือนว่า พระเจ้าก็ยังไม่ตอบคำอธิษฐานของเราเสียที มันเป็นเพราะอะไร ?
มันไม่ได้เป็นเพราะพระเจ้า เพราะเวลาของพระเจ้านั้นได้มาถึงมนุษย์ทุกคนแล้ว ตั้งพระเยซูคริสต์ได้เสด็จเข้ามาในโลกนี้ แต่เป็นเพราะสามีหรือภรรยาของพี่ - น้องนั้นเขากลัว
คำถามคือว่าเขากลัวอะไร ?
1.เขากลัวที่จะสัตย์ซื่อ
2.เขากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง
3.เขากลัวจะไม่ได้ไปในที่ชอบ
4.เขากลัวที่จะเป็นคนฉลาดและดี
5.เขากลัวที่จะไม่ได้ทำตามใจตัวเอง
6.เขากลัวที่จะถูกค้นพบว่าตัวเองเป็นคนบาป
7.เขากลัวที่จะไม่ได้สะสมทรัพย์สมบัติในโลก
8.เขากลัวที่จะละทิ้งต่อความบาปที่คุ้นเคย กลัวไม่ได้สูบบุหรี่ กลัวไม่ได้กินเบียร์ กินเหล้า กลัวไม่ได้นอกใจภรรยา กลัวไม่ได้เที่ยวผู้หญิง กลัวไม่ได้แทงหวยถูกเบอร์ กลัวไม่ได้สมาชิกสามแยกปากสุนัข รวมทั้งเขากลัวอะไรต่ออะไรอีกมากมายสารพัด
พี่ - น้องที่รักครับ ถ้าคนที่เขายังไม่พร้อมจะเชื่อ เราจะไปทำอะไรให้เขาเชื่อก็ไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้นั่นก็คือการอดทนและรอคอย โดยการอธิษฐานอย่างไม่อ่อนระอาใจ คำถามคือว่าอธิษฐานอย่างไร ?
1.อธิษฐานให้สามีหรือภรรยาของพี่ - น้อง ที่จะได้พบกับการสำแดงของพระเจ้าเป็นการส่วนตัวเหมือนกับโมเสสที่พบกับพระเจ้าที่พุ่มไม้นั้น
2.อธิษฐานให้สามีหรือภรรยาของพี่ - น้อง ที่จะได้ยินเสียงของพระเจ้า เป็นการส่วนตัวเหมือนกับเซาโลที่กำลังจะเดินทางไปข่มเหงคริสเตียนที่ดามัสกัส
3.อธิษฐานให้สามีหรือภรรยาของพี่ - น้อง ที่จะได้พบกับผู้ประกาศที่เมื่อเขาฟังเรื่องราวของพระเจ้าแล้ว เขาจะรับเชื่อเลยเหมือนกับโจรบนไม้กางเขน ซึ่งผมไม่ได้หมายความว่าให้พี่ - น้องอธิษฐานเผื่อสามีหรือภรรยาของพี่ - น้อง ต้องมารับเชื่อตอนใกล้จะตายน๊ะครับ ให้รับเชื่อตอนกำลังดีๆ เนี่ยแหละ
4.อธิษฐานให้สามีหรือภรรยาของพี่ - น้องได้มีประสบการณ์ บางสิ่งบางอย่างกับพระเจ้า เหมือนกับหญิงโลหิตตก เป็นต้น เช่น
ถ้าพี่ - น้องเรารู้ว่าสามีหรือภรรยาของพี่ - น้องกำลังมีปัญหาในชีวิตทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัวหรือจะเรื่องอะไรก็ตาม เราขอที่จะอธิษฐานเผื่อเขาได้มั้ย และให้พี่ - น้องมีความเชื่อ เชื่อว่าอย่างไร ? เชื่อว่าเขาจะมารู้จักกับพระเจ้าผ่านคำอธิษฐานของเรา เชื่อว่าสามีหรือภรรยาของเรามันจะเก่งกว่าคำอธิษฐานของเราก็ให้มันรู้กันไปเท่านั้นยังไม่พอ พี่ - น้องจะต้องคอยปรับปรุงชีวิตและปรับปรุงดวงจิตของพี่ - น้องเอง ให้เหมือนกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าอยู่เสมอด้วย ตย. จอร์จ มูเล่อร์
แบบที่ 4 คือ คำอธิษฐานที่พระเจ้าทรงตอบแบบตรงกันข้าม ( opposite )
มีเรื่องจริงที่เล่าต่อๆ กันมาว่า แม่ของ เซ้นท์ ออกัสติน ที่ชื่อ โมนิก้า ได้อธิษฐานเผื่อลูกชายของเขาที่ชื่อ ออกัสติน ตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้ ออกัสติน นั้น เป็นเด็กที่เชื่อฟังพระเจ้า แต่เมื่อ ออกัสติน เริ่มเข้าสู่ช่วงของวัยรุ่น พฤติกรรมของเขาก็เปลี่ยนไปในทางที่ โมนิก้ารู้สึกหนักใจมาก เพราะ ออกัสติน ทำตัวเป็นผู้ชายเจ้าสำราญ
วันหนึ่ง โมนิก้า อธิษฐานขออย่าให้ลูกชายเดินทางไปกรุงโรม เพราะที่กรุงโรม โมนิก้า เกรงว่าจะยิ่งทำให้ ออกัสติน ฟุ้งเฟ้อมากขึ้น แต่แล้ววันหนึ่ง ออกัสติน ก็ได้มาบอกกับผู้เป็นแม่ว่าเขาจะไปกรุงโรม โมนิก้า รู้สึกเสียจากมากที่คำอธิษฐานของเขาไม่เป็นผล
แต่พี่ - น้องทราบไหมครับว่า ที่กรุงโรมนั่นเองที่ ออกัสติน ได้พบกับคริสตเตียนที่ดีมากๆคนหนึ่งทำให้ออกัสตินกลับใจใหม่อีกครั้ง และเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเป็นนักปราชญคริสเตียนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ยก.5:16 คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล
คำถามคือว่า พี่ - น้องมีความเข้าใจคำว่า การอธิษฐานมีพลัง ว่าอย่างไร ?
พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อเราอธิษฐานออกเสียงออกไปพระเจ้าจะส่งพลังหรือฤทธานุภาพของพระองค์ออกมา เพื่อที่จะทำให้น้ำพระทัยของพระองค์นั้น สำเร็จ ผ่านคำอธิษฐานของเรา
ดังนั้นเมื่อเราออกเสียงอธิษฐานเผื่อคน พลังหรือฤทธานุภาพของพระเจ้าก็จะออกมาคนๆนั้นก็จะเปลี่ยนได้ และท่านก็ต้องเชื่ออย่างนั้นด้วยว่าเขาจะเปลี่ยนหรือต้องเชื่อมั่นด้วยว่า มันจะเก่งกว่าคำอธิษฐานของก็ให้รู้กันไป
ดังนั้นเมื่อเราออกเสียงอธิษฐานเผื่อคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย พระเจ้าก็จะส่งพลังหรือฤทธานุภาพแห่งการรักษาของพระองค์นั้นออกมาเพื่อให้คนป่วยนั้น 1 ได้รับการเยียวยา 2 แตะต้องรักษา
ดังนั้นเมื่อพี่ - น้องออกเสียงอธิษฐานเผื่อสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น พระเจ้าก็จะส่งพลังหรือฤทธานุภาพเหนือธรรมชาติของพระองค์ออกมา สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก็สามารถที่จะได้รับการคลี่คลายหรือได้รับการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นผมจึงมีความเชื่ออย่างมั่นใจว่าในช่วงเวลา 40 วัน ของการอดอาหารอธิษฐานของคริสเตียนไทยทั่วประเทศร่วมกันในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่ดีขึ้นให้กับสังคม ให้กับประเทศนี้ เมืองนี้ อย่างแน่นอน
และเมื่อวันที่ดีนั้นมาถึงก็ขอให้พี่ - น้องที่ร่วมกันถืออดในครั้งนี้อย่างเข้มแข็ง อย่างเอาจริงเอาจังไม่ใช่ทำแบบล้อเล่น ต่างที่จะได้ภาคภูมิใจว่าท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ฟื้นฟูศีลธรรม นั่นคือความสัตย์ซื่อ ให้กับประเทศไทยอีกครั้ง
สรุปพระวจนะของพระเจ้าในเช้าวันนี้คือ
เรียนรู้ชีวิตการอธิษฐานของพระเยซู
เรียนรู้ชีวิตการอธิษฐานของสาวก
เรียนรู้การตอบคำอธิษฐานของพระเจ้า
แบบที่ 1 คือ ตอบในทันที ( yes ) แบบที่ 2 คือ ตอบปฏิเสธ ( no )
แบบที่ 3 คือ ให้รอคำตอบ ( wait ) แบบที่ 4 คือ ตรงกันข้ามกับที่ขอ ( opposite )
