ความเข้าใจในความทุกข์ยาก*

คำเทศนาเรื่อง ความเข้าใจในความทุกข์ยาก

ขอบ คุณพระเจ้าสำหรับโอกาสและสิทธิพิเศษ ที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมพี่น้องในเช้าวันนี้ และขอบคุณพระเจ้าที่ อ.วัลย์ ได้เชิญให้ข้าพเจ้ามีโอกาสที่จะแบ่งปันกับพี่น้องในเช้าววันนี้ด้วย โดยผมจะอัญเชิญพระคำของพระเจ้าจากพรธรรมมัทธิว 26 : 36 – 39 ให้ที่ประชุมเปิดและอ่านพร้อมๆกันด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

“แล้ว พระเยซูทรงพาสาวกมายังที่แห่งหนึ่งเรียกว่า เกทเสมนี แล้วตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า จงนั่งอยู่ที่นี่ ขณะเมื่อเราจะไปอธิษฐานที่โน่น พระองค์ก็พาเปโตรกับบุตรทั้งสองของเศบดีไปด้วย พระองค์ทรงโศกเศร้าและหนักพระทัยนัก จึงตรัสกับเขาว่า ใจของเราเป็นทุกข์แทบจะตาย จงเฝ้าอยู่กับเราที่นี่เถิด แล้วเสด็จดำเนินไปอีกหน่อยหนึ่ง ก็ซบพระพักตร์ลงถึงดินอธิษฐานว่า โอพระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าเป็นได้ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิดแต่อย่างไรก็ดีอย่าให้ เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ”และข้อความหรือ Wording ที่ผมจะใช้เป็นกุญแจในการที่จะเน้นในการแบ่งปันกับพี่ – น้องเป็นพิเศษจะอยู่ตรงคำที่พูดว่า “ใจของเราเป็นทุกข์แทบจะตาย ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

พี่ - น้องครับ เรือไททานิคซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีที่ผ่านมาและถูกปล่อยลงน้ำ เมื่อปี 31 พ.ค. 1911   พี่น้องทราบไหมครับว่าเรือลำนี้ เป็นเรือที่เจ้าของมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากว่า 1 ) เป็นเรือที่ยิ่งใหญ่ 2 ) เป็นเรือลำนี้จะไม่มีวันจม  

แล้ววันหนึ่ง เรือที่เจ้าของมีความภาคภูมิใจว่าเป็นเรือที่ยิ่งใหญ่และจะไม่มีวันจมในที่สุดจมลงไหมครับ ? ก็ต้องจมลง

1 ) เมื่อเรือนั้นได้ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง

2 ) ก็ได้อับปางลง ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความตกตลึงให้กับผู้คนไปทั่วโลก

            เช่นเดียวกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรือเช่นเดียวกับการดำเนินชีวิตของพี่น้องและผม ที่วันหนึ่งเราอาจจะต้องพบกับมรสุมแห่งชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แตกต่างกันตรงที่ปัญหาของพี่น้องบางคนนั้น 1) บางคนอาจจะเจอคลื่นเล็กหรือคลื่นใหญ่ 2 ) บางคนอาจจะเจอมรสุมลูกเล็กหรือมรสุมลูกใหญ่ 3 ) บางคนอาจจะเจอปัญหาเล็กปัญหาใหญ่เท่านั้นเอง

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 1 เราพบว่าองค์พระเยซูเจ้ากำลังเผชิญกับ 1 ) ปัญหาหรือกำลังเผชิญกับมรสุมแห่งชีวิต 2 ) การทดลอง และเราพบว่าพระเยซูกำลังเผชิญกับปัญหาที่หนักที่สุดใหญ่ในชีวิตของพระองค์

พระคำของพระเจ้าในข้อที่ 37 พระดำรัสของพระเจ้าตรัสว่า “ พระองค์ทรงโศกเศร้าและหนักพระทัยนัก ”ในข้อที่ 38 พระดำรัสของพระเจ้าตรัสว่า “ ใจของเราทุกข์แทบจะตายอยู่แล้ว ”

          พี่ - น้องที่รักครับเมื่อผมอ่านพระคำของพระเจ้าในข้อนี้แล้ว    ผม รู้สึกขอบคุณพระเจ้า ที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเสด็จลงบังเกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งการเสด็จลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์นั้น มีหมายความอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือว่า พระองค์ทรงยอมให้พระองค์เองนั้นมีข้อจำกัดเหมือนอย่างมนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่ง ด้วยเช่นกัน

ดัง นั้นเมื่อพระเยซูทรงอยู่ในสภาพของการเป็นมนุษย์ พระองค์ก็ทรงมีนามเรียกอย่างมนุษย์ อาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็ได้ว่า ชื่อที่พระองค์ทรงมีนั้นชี้ถึงความเป็นมนุษย์ของพระองค์

ด้วย เหตุนี้ พระองค์จึงทรงมีความเหน็ดเหนื่อยเช่นเรา พระองค์ทรงหิวและกระหายเช่นเรา อยู่ภายใต้การทดลองเหมือนเรา ทรงมีประสบการณ์ในความเจ็บปวดและทรงมีประสบการณ์ในความตายเหมือนเราและ มากกว่าเรา ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ในข้อจำกัดในการเป็นมนุษย์ของพระองค์

ดัง นั้นเมื่อพระองค์ต้องเผชิญกับความทุกข์..ในสภาพของการเป็นมนุษย์ เราจึงกล่าวได้อย่างชัดเจนว่า 1) พระเยซูรู้จักความทุกข์และเข้าใจในความทุกข์ของมนุษย์เป็นอย่างดี 2 ) พระเยซูทรงเข้าใจในความหนักอก หนักใจของมนุษย์เป็นอย่างดี

                             คำถามที่น่าสนใจคำถามแรกก็คือว่า

ในวันที่พี่ - น้องต้องเผชิญกับความทุกข์นั้น พี่ – น้องได้รู้จักความทุกข์และได้เข้าใจในความทุกข์นั้นหรือไม่

หลาย ครั้งที่พี่ - น้องต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก แล้วก็ปล่อยให้ความทุกข์นั้นผ่านไป โดยที่พี่ - น้องไม่ได้เรียนรู้และไม่ได้ทำความเข้าใจกับความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต นับว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก

การที่พี่ - น้อง ( ไม่ได้เรียนรู้และไม่ได้ทำความเข้าใจกับความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ) ว่าทำไมความทุกข์ยากนั้นเกิดขึ้นในชีวิตของเรา หรือในครอบครัวของเราหรือในคริสตจักรของเรา นั่นก็หมายความว่าพี่ - น้องไม่ได้นึกถึงพระวจนะคำของพระเจ้า

ใน ทางตรงกันข้าม ในวันที่พี่ - น้องต้องเผชิญกับความยากลำบาก และถ้าพี่ - น้องได้เรียนรู้และได้ทำความเข้าใจในความทุกข์ยากนั้นจากพระคำของพระเจ้า แล้ว   ท่ามกลางความยากลำบากนั้นพี่ - น้องจะเห็นถึงพระพรที่ซ่อนอยู่หลายประการ

ให้ที่ประชุมเปิดไปที่หนังสือยากอบ 1 : 3-15 และอ่านพร้อมๆกันอย่างช้าๆด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

ยากอบ 1 : 3 - 4 พระคัมภีร์พูดถึงความหนักแน่นมั่นคง

ถ้า พี่ – น้องได้เรียนรู้และได้ทำความเข้าใจในความทุกข์นั้น ผ่านทางพระคำของพระเจ้า พี่ - น้องก็จะพบว่าความทุกข์นั้น จะทำให้เราเกิดความหนักแน่นมั่นคง เพราะถ้าเราไม่หนักแน่นมั่นคงในความทุกข์นั้น เราก็จะทุกข์มากขึ้น

ยากอบ 1 : 5 - 8 พระคัมภีร์พูดถึง สติปัญญา

ถ้า พี่ – น้องได้เรียนรู้และได้ทำความเข้าใจในความทุกข์นั้น ผ่านทางพระคำของพระเจ้า พี่ - น้องก็จะพบว่าความทุกข์นั้น จะทำให้เราเกิดปัญญาในการที่เรานั้นจะอธิษฐานกับพระเจ้าอย่างไร Sample (ลูกไม่มี ลูกหิว)

และ ต้องทูลขอด้วยความเชื่อ เพราะถ้าเราไม่อธิษฐานขอด้วยความเชื่อ แล้ว พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า คำอธิษฐานนั้นก็จะถูกซัดไปซัดมาหรือว่าไม่ได้รับนั่นเอง

ยากอบ 1 : 9 - 11 พระคัมภีร์พูดถึง ความผันแปรของชีวิต

ถ้า พี่ – น้องได้เรียนรู้และได้ทำความเข้าใจในความทุกข์นั้น ผ่านทางพระคำของพระเจ้า พี่ - น้องก็จะพบว่าความทุกข์นั้น ความทุกข์นั้นทำให้เรานั้นมีความเข้าใจความผันแปรของชีวิตว่า ชีวิตนั้นมีขึ้น มีลง มีร่ำรวย มียากจน

ยากอบ 1 : 12 พระคัมภีร์พูดถึง มงกุฏแห่งชีวิต

ถ้า พี่ – น้องได้เรียนรู้และได้ทำความเข้าใจในความทุกข์นั้น ผ่านทางพระคำของพระเจ้า พี่ – น้องก็จะพบว่า คนที่อดทนต่อความทุกข์ยากลำบากได้นั้นเป็นคนศักดิ์ศรี

ยากอบ 1 : 13 - 15 พระคัมภีร์พูดถึง การกล่าวโทษ

ถ้า พี่ – น้องได้เรียนรู้และได้ทำความเข้าใจในความทุกข์นั้น ผ่านทางพระคำของพระเจ้า พี่ – น้องก็จะพบว่า คนที่มีความทุกข์นั้นจะไม่โทษพระเจ้า ( เพราะพระเจ้าประทานแต่สิ่งดีทั้งสิ้น ) อีกทั้งคนที่มีความทุกข์นั้นจะไม่โทษคนอื่น ว่าเป็นเหตุแห่งความทุกข์นั้น แต่เขาจะโทษตัวเอง เพราะเขารู้ว่าความทุกข์นั้นเกิดจากกิเลสตัณหา ความอยากได้ใคร่มีเหมือนคนอื่นๆ

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 2 เราพบว่าเมื่อพระเยซูเผชิญกับความทุกข์ สิ่งที่พระองค์กระทำนั่นก็คือการพึ่งพาพระเจ้า พระบิดา

ในข้อที่ 39 พระดำรัสของพระเจ้าตรัสว่า “ แล้วเสด็จดำเนินไปไปอีกหน่อยนึง ก็ซบพระพักตร์ลงถึงดินอธิษฐาน ” พระเยซูพึ่งพาพระเจ้า โดยการอธิษฐาน คำถามก็คือว่า ? ทำไมพระเยซูจึงพึ่งพาพระเจ้า เพราะพระเยซูรู้จักพระเจ้า พระบิดาเป็นอย่างดี

คำ ถามที่น่าสนใจยิ่งก็คือว่า ในวันที่พี่ - น้องต้องเผชิญกับความทุกข์นั้น พี่ - น้องได้พึ่งพาพระเจ้าหรือพี่ - น้องพึ่งพาใคร และถ้าพี่ - น้องตอบว่าพี่ - น้องพึ่งพาพระเจ้า งั้นขอถามต่อไปอีกนิดว่า ? พี่ - น้องได้พึ่งพาพระองค์เป็นอย่างดีหรือไม่

พี่ - น้องที่รัก เมื่อเราต้องเผชิญกับมรสุมแห่งชีวิต เราต้องพึ่งพาพระเจ้าโดยการอธิษฐาน พระเจ้าบอกกับเราผ่านทางพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ว่า

           “ สิ่งสารพัดที่ท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อท่านจะได้ ” มธ.21:22

“ ถ้าท่านขอสิ่งใดจากพระบิดา พระองค์จะประทานสิ่งนั้นให้กับท่านในนามของเรา ” ยน. 16:23

“ ถ้าท่านทั้งหลายเข้าสนิทอยู่ในเราและถ้อยคำของเราอยู่ในท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใดซึ่งท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น ” ยน. 15:8

ดัง นั้นในวันที่พี่ – น้องจะต้องเผชิญกับมรสุมแห่งชีวิตไม่ว่ามันจะรุนแรงขนาดไหนก็ตามหรือแม้ กระทั่งจนเรือจะปางอยู่แล้วก็ตามนั้น ให้พี่ - น้องได้พึ่งพาพระเจ้าโดยการอธิษฐาน

พี่ - น้องทราบมั้ยครับว่า เมื่อชีวิตของเรามีปัญหา แล้วเราได้อธิษฐานกเพื่อพึ่งพาพระเจ้าอยู่เสมอๆมันจะเกิดอะไรขึ้นพี่ - น้องทราบไหมครับ ? ความทุกข์นั้นต่างหากที่มันจะกลัวพี่ – น้อง

            คำถามที่น่าสนใจยิ่งนั่นก็คือว่า ใน วันที่พี่ - น้องต้องเผชิญกับมรสุมของชีวิต หรืออยู่ในภาวะแห่งความกดดันนั้น พี่ - น้องอยู่ในท่าทีที่ต้องต่อพระพักตร์ของพระเจ้าหรือไม่

ให้ที่ประชุมปิดไปที่ กจ. 16 : 25 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “ ประมาณเที่ยงคืน เปาโลกับสิลาสก็อธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นักโทษทั้งหลายในคุกก็ฟังด้วย ”เปา โลกับสิลาส ถูกจำคุกที่เมืองฟิลิปปี สิ่งที่ทั้งสองท่านได้กระทำในภาวะแห่งความกดดันนั้นคืออะไร ? คือ การนมัสการและสรรเสริญพระเจ้า และผลแห่งการที่ อ.เปาโลกับสิลาส ได้นมัสการและสรรเสริญพระเจ้า ในช่วงแห่งความกดดันนั้นเป็นอย่างไร ? ให้พี่ - น้องอ่านต่อไปในข้อที่ 26 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “ในทันใดนั้นเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ จนรากคุกสะเทือนสะท้านและประตูคุกเปิดหมดทุกบาน เครื่องจำจองก็หลุดจากเขาสิ้นทุกคน”

และ นี่เป็นเคล็ด ( แต่ ) ไม่ลับที่พระคำของพระเจ้าต้องการที่จะบอกกับพี่น้องในเช้าวันนี้ว่า ในวันคืนที่พี่ - น้องจะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก เศร้าโศกเสียใจ หรือต้องตกอยู่ในสภาวะแห่งความกดดันนั้น เราควรที่จะอยู่ในท่าทีแห่งการนมัสการสรรเสริญพระเจ้า และด้วยการขอบพระคุณพระคุณ

และ เมื่อเราอยู่ในท่าทีที่ถูกต้องต่อพระเจ้า เหมือนกับ อ.เปาโลกับสิลาส พระองค์ก็จะทรงช่วยเรา และนำเราในการฝันฝ่ามรสุมแห่งชีวิตด้วยพระองค์เอง ( อาเมน ) ท้ายสุด สุดท้ายผมอยากที่จะหนุนใจพี่น้องว่า 1 + 1 แม้ว่าผลลัพธ์มันจะเท่ากับสอง แต่ถ้า 1 ตัวข้างหลังคือเราและ 1 ตัวหน้าคือพระเจ้าผลลัพธ์ = ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นได้สำหรับพระเจ้า เกินความสามารถที่เราจะเข้าใจได้

ดัง นั้นในวันนี้ถ้าพี่ – น้องกำลังเผชิญกับความทุกข์หรือกับมรสุมแห่งชีวิตในเรื่องใดก็ตาม ในเช้าวันนี้ให้เราได้นำความทุกข์นั้นมาทูลต่อพระองค์ร่วมกัน

Green City