คริสต์มาสที่หายไป

                                                คำเทศนาเรื่อง คริสต์มาสที่หายไป

      

ในเช้าวันนี้จะอัญเชิญพระคำของพระเจ้าจาก มธ.1:18 - 23 และ มธ. 2 :1 - 20 ให้ที่ประชุมเปิดและอ่านพร้อมๆกันด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

            ก่อนที่จะเข้าสู่การเทศนาในเช้าวันนี้ ผมมีเรื่องเล่าที่จะมาแบ่งปันกับพี่น้อง 2 เรื่องด้วยกันเรื่องเล่าเรื่องแรกก็คือว่า มีสตรีซึ่งเป็นผู้เชื่อหรือคริสเตียนใหม่ 2 ท่าน ได้เตรียมทำอาหารอย่างดี เพื่อที่จะเฉลิมฉลองสำหรับคริสต์มาสของเขาในวันพรุ่งนี้ ภายหลังจากการทำอาหารก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ทำให้เธอทั้งสองได้เผลอหลับไป ในขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ใน Apartment ของเธอ

และในคืนก่อนวันคริสต์มาสที่จะมาถึง ก็ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในอพาร์ทเม้นท์แห่งนั้นทำให้เธอทั้งสองคนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ทำการตรวจสอบแล้วสรุปผลการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการเตือนภัยภายในห้องนอนของเธอนั้นถูกถอดออก แล้วคนที่ถอดอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการเตือนภัยภายในห้องนอนของเธอนั้น

พี่ - น้องทายซิครับว่าเป็นใคร ? คนที่ถอดอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการเตือนภัยในห้องนอนของเธอ ก็คือเธอทั้งสองคนนั่นเอง และสาเหตุที่เธอต้องถอดอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการเตือนภัยภายในห้องนอนของเธอก็เพราะว่า เธอไม่ต้องการให้เครื่องตรวจควันไฟนั้นส่งเสียงเตือนภัยในขณะที่เธอกำลังปรุงอาหาร วันคริสต์มาสซึ่งเป็นคริสตมาสของเขาทั้งสองจึงหายไป

เรื่องเล่าเรื่องที่สองก็คือว่า มีครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง ได้จัดคริสต์มาสขึ้นที่คฤหาสน์หรูหลังหนึ่งให้กับสมาชิกทารกแรกเกิด แขกแต่ละคนที่ถูกเชิญมาในงาน ก็จะแต่งกายกันมาในชุดแฟชั่นสวยหรูราคาแพง

พี่ - น้องที่รักครับ ธรรมเนียมฝรั่งอย่างหนึ่งเลยก็คือ เมื่อมาถึงก็จะถอดชุดคลุม ออกแล้วพาดไว้บนโซฟาหรือเก้าอี้รับแขก พอถึงเวลานาทีที่สำคัญเขากับหาทารกแรกเกิดคนใหม่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เมื่อพวกเขาช่วยกันค้นหาไม่กี่นาทีต่อมาก็พบว่า สมาชิกแรกเกิดคนใหม่นั้นถูกฝังอยู่ใต้เสื้อคลุมบนเก้าอี้โซฟานั่นเอง วันคริสต์มาสซึ่งเป็นคริสตมาสแรกของสมาชิกแรกเกิดคนใหม่นี้จึงหายไป

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราอ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 1 เราพบว่าคริสต์มาสแรกของกษัตริย์เฮโรดนั้นได้หายไป

พระคำของพระเจ้าในข้อที่ 3 นั้น เราพบว่ากษัตริย์เฮโรดนั้นเขาไม่มีความสุขเลย สิ่งที่เขามีในวันคริสตสมภพหรือวันที่พระเยซูคริสตทรงมาบังเกิดนั้นคืออะไร ?

สิ่งที่กษัตริย์เฮโรดมีนั่นก็คือ เขามีแต่ความทุกข์ใจ กระวนกระวายใจ มีแต่ความวิตกกังวล มีแต่ความเครียด ไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เพราะเขาเกรงว่าพระกุมารที่บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ จะเป็นผู้มาแย่งชิงตำแหน่งกษัตริย์ชาวยิวจากเขาไป และในข้อที่ 3 ในข้อเดียวกันนี้ เรายังพบต่อไปอีกว่ากษัตริย์เฮโรดนั้นเขามองโลกในแง่ร้ายเกินไปอีกด้วย

กษัตริย์เฮโรดคิดว่า ชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหลายที่ทราบว่ามีพระกุมารบังเกิดมาเป็นกษัตริย์ นั้นก็คงจะพลอยทุกข์ใจหรือวุ่นวายใจไปกับเรื่องนี้เหมือนกับเขาด้วย

กษัตริย์เฮโรดคิดว่า ชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหลายที่ทราบว่ามีพระกุมารบังเกิดมาเป็นกษัตริย์ นั้นก็คงจะไม่มีรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะไปกับเรื่องนี้เหมือนกับเขาด้วย

กษัตริย์เฮโรดคิดว่า ชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหลายที่ทราบว่ามีพระกุมารบังเกิดมาเป็นกษัตริย์ นั้นก็คงจะมีความวิตกกังวลหรือมีความเครียดไปกับเรื่องนี้เหมือนกับเขาด้วย

กษัตริย์เฮโรดคิดลบ มองโลกในแง่ร้าย คริสตมาสของกษัตริย์เฮโรดจึงหายไป

วันคริสตมาสซึ่งเป็นคริสตมาสแรกของกษัตริย์เฮโรด จึงเป็นคริสตมาสแห่งการทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 2  เราพบว่าคริสตมาสแรกของกษัตริย์เฮโรดนั้นเต็มไปด้วยการโกหกและหลอกลวง

ในข้อที่ 7 เราพบว่ากษัตริย์เฮโรดนั้นเขาได้หลอกถามบรรดาปุโรหิตย์และพวกธรรมาจารย์ เขาถามถึงเวลาที่ดวงดาวจะปรากฏ  ซึ่งที่นั่นเป็นสถานที่ๆองค์พระเยซูคริสต์เจ้าจะเสด็จลงมาบังเกิดในโลกใบนี้ พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้อย่างชัดเจนว่ากษัตริย์เฮโรดได้หลอกถามบรรดาปุโรหิตย์และพวกธรรมาจารย์อย่างละเอียด

ในข้อที่ 8 เราก็พบว่ากษัตริย์เฮโรดยังได้หลอกลวง บรรดาปุโรหิตย์และพวกธรรมาจารย์ต่อไปอีกว่า ถ้าพบพระคริสต์แล้วให้กลับไปแจ้งพระองค์ด้วย เพื่อว่าพระองค์คือกษัตรย์เฮโรดจะได้ไปนมัสการพระกุมารด้วย ซึ่งแท้ที่จริงแล้วกษัตริย์เฮโรดคิดอย่างนั้นจริงๆไหมครับพี่น้องที่รัก ? แท้ที่จริงแล้วกษัตริย์เฮโรดมีเจตนาที่จะประหารชีวิตพระกุมาร คริสตมาสของกษัตริย์เฮโรดจึงเต็มไปด้วยอะไรครับพี่ - น้อง? การโกหกหลอกลวงทั้งสิ้น

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 3  เราพบว่าคริสตมาสแรกของกษัตริย์เฮโรดเต็มไปด้วยการฆ่าและทำลายผู้บริสุทธิ์

ในข้อที่ 12 พะรคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าทรงให้แผนการชั่วของกษัตริย์เฮโรดนั้นแตก โดยพระเจ้าทรงให้ฑูตสวรรค์ของพระองค์นั้นไปแจ้งเตือนกับบรรดาพวกปุโรหิตย์และพวกธรรมาจารย์ว่า “มิให้กลับไปเข้าเฝ้ากษัตรย์เฮโรดอีก” เมื่อกษัตรย์เฮโรดรู้ว่าพวกโหราจารย์หลอกท่าน เขาจึงสั่งทหารเป็นจำนวนมาก ไปฆ่าและทำลายเด็กชายซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปีลงมาจนถึงวัยใกล้เคียงในบ้านเบธเลเฮม

คริสต์มาสแรกของกษัตริย์เฮโรดนั้น จึงเป็นคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยการทำความบาป คริสต์มาสแรกของกษัตริย์เฮโรดนั้นจึงเป็นคริสตมาสที่เต็มไปด้วยการฆ่าและทำลายผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 4   เราพบว่าคริสตมาสแรกของกษัตริย์เฮโรดนั้นเต็มไปด้วยความวิตกจริต

พี่ - น้องเข้าใจคำว่าวิตกจริตไหมครับ ? มีใครคิดว่าอาทิตย์หน้าลูกชายผมวัย 5 ขวบจะมาเป็นศิษยาภิบลาแทนผมไหมครับ ? ถ้าใครคิดอย่างนั้นนั่นกำลังเท่ากับว่าท่านกำลังวิตกจริต

แต่ในเวลานั้นซึ่งเป็นเวลาที่พระคริสต์เสด็จลงมาบังเกิดเป็นเด็กทารก กษัตริย์เฮโรดเขาคิดอย่างนั้น กษัตริย์เฮโรดเขากลัวว่าเด็กแบเบาะคนหนึ่งที่เพิ่งจะถือกำเนิดเกิดขึ้นมาในโลกใบนี้จะมาแย่งชิงตำแหน่งกษัตริย์ชาวยิวไปจากเขา คริสตมาสแรกของกษัตริย์เฮโรดจึงเต็มไปด้วยความวิตกจริต และด้วยความวิตกจริตนี้เองทำให้กษัตริย์เฮโรดนั้นได้กระทำสิ่งต่างๆที่เป็นการไม่สมควรทำ เช่น ทำให้เขาต้องมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ทำให้เขาหลอกลวงบรรดาปุโรหิตย์และพวกธรรมาจารย์ ฆ่าเด็กทารกผู้บริสุทธิ์และพยายามฆ่าพระเยซูคริสต์ วันคริสตมาสซึ่งเป็นคริสตมาสแรกของกษัตริย์ได้หายไป

ซึ่งแตกต่างไปจากบรรดาผู้เลี้ยงแกะทั้งหลาย ที่พวกเขานั้นได้เฉลิมฉลองวันคริสตมาสซึ่งเป็นคริสตมาสแรกของพวกเขาด้วยความชื่นชมยินดี ด้วยความชื่นบานซึ่งพระคำของพระเจ้าในลก. 2:8 - 20 ได้มีการบันทึกเอาไว้

ผมขอบคุณพระเจ้าที่วันคริสตมาส โดยเฉพาะคริสตมาสแรกในการเป็นคริสเตียนของผมในปีแรกนั้นไม่ได้หายไป และเราก็ไม่ควรเลยที่จะทำให้วันคริสตมาสของทุกๆปีจะต้องหายไปจากชีวิตของเราอาเมนไหมครับพี่น้อง ?

คำถามก็คือว่า เพราะอะไรเราถึงไม่ควรที่จะให้คริสตมาสในแต่ละปีนั้นจะต้องหายไปจากชีวิตของเรา      

เพราะคำว่าพระคริสต์ หมายถึง ผู้ได้รับการแต่งตั้งมาหรือหมายถึงผู้ช่วยให้รอด

ช่วยใครครับ ? ช่วยพี่น้องและผมรวมถึงมนุษย์ซึ่งเป็นคนบาปอีกมากมายหลายคนให้รอด

ดังนั้นเมื่อเราได้รับความรอดแล้ว เราก็ควรจะต้อนรับวันคริสตมาสของเราในแต่ละปีด้วยความชื่นชมยินดี เมื่อเราได้รับความรอดแล้วเราก็ควรที่จะมาเฉลิมฉลองเพราะพระเยซูคริสต์พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเหตุผลใดๆเลยที่จะทำให้วันคริสตมาสในทุกๆปีต้องหายไปจากชีวิตของเรา (อาเมน)

สรุป พระคำของพระเจ้าในเช้าวันนี้นั่นก็คือว่า พี่น้องอย่าทำให้วันคริสต์มาสของพี่น้องนั้นหายไปจากชีวิตของพี่น้องเหมือนกับกษัตริย์เฮโรดซึ่งไม่ได้สัมผัสกับคริสต์มาสแรกและไม่ได้สัมผัสกับคริสต์มาสใดๆเลย

                       

Green City