คนเหนือทุกข์

คำเทศนาเรื่อง คนเหนือทุกข์

ในเช้าวันนี้จะอัญเชิญพระวจนะของพระเจ้าจาก ยน.16:33 เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว" และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า “คนเหนือทุกข์” ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

พี่น้องยังจำได้ไหมครับว่า เมื่อพระเจ้าทรงสร้างโลกใบนี้ขึ้นมาโดยแท้จริงแล้วพระเจ้าทรงให้ใครเป็นผู้ครอบครองครับ ? ระหว่างมนุษย์กับซาตาน ?

แต่เมื่อมนุษย์คู่แรกของโลกนั่นก็คือ อาดำ-เอวา ได้ไปเชื่อฟังมาร ซาตาน แทนพระเจ้า มนุษย์จึงได้สูญเสียสิทธิอำนาจในการครอบครองและในการปกครองนั้นไปให้กับมารในทันที ซึ่งการสูญเสียนั้นได้เริ่มต้น ปฐก.3:13 เป็นต้นมาจนมาถึงปัจจุบันนี้ ? ยาวนานไหมครับ ?

ด้วยเหตุนี้องค์พระเยซูคริสต์จึงได้ตรัสเอาไว้ ยน.6:33 ว่า “ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก " ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้เชื่อจะต้องได้รับผลกระทบนี้ด้วยไหมครับ ?

ดังนั้นใครก็ตามที่มาบอกว่า มาเชื่อพระเจ้าแล้วจะมีแต่ความสุข ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย รวยอย่างเดียว เป็นการพูดที่ถูกต้องไหมครับ ? ใครมาพูดอย่างนี้ ขอให้พี่น้องหนีให้ไกล เพราะเขากำลังเผยแพร่ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องให้กับพี่น้อง

ดังนั้นขอให้พี่น้องได้รู้และได้เข้าใจให้ตรงกันว่า การถ่ายโอนสิทธิอำนาจในการครอบครองและสิทธิอำนาจในการปกครองจากมนุษย์ไปสู่ มาร ซาตาน วิญญาณชั่ว นั้นมันได้เริ่มต้นตั้งแต่การที่อาดำกับเอวานั้นได้ทำบาปกับพระเจ้าผ่านการไม่เชื่อฟังที่ในสวนเอเดนนั้น

พี่น้องที่รักครับ ภายหลังจากที่อาดำ-เอวา ถูกพระเจ้าให้ออกมาจากสวนเอเดน เราก็จะเห็นได้ว่าปัญหาต่างๆค่อยเริ่มปรากฎขึ้นที่ละเล็กละน้อย Ex.คาอินฆ่าอาแบล อีกทั้งเรามองเห็นปัญหาอื่นๆมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลานี้เราเห็นปัญหาต่างๆตามมาอีกเยอะแยะมากมายจนถึงในขณะที่เป็นอยู่ในเวลานี้และในอนาคต

ซึ่งในปัจจุบันนี้โลกเรามีวิวัฒนาการต่างๆเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย การศึกษาของผู้คนในสมัยนี้ดีขึ้นไหมครับ ? แต่ปัญหาครอบครัว ปัญหาความขัดแย้งทางสังคมรวมถึงปัญหาอื่นๆกับไม่ได้ลดลงแต่อย่างใดจริงหรือไม่จริง ? ในทางตรงกันข้ามนับวันกับมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างน่าใจหายและนับวันพัฒนาไปทางที่ชั่วร้ายมากขึ้น

และด้วยสภาพของสังคมที่เป็นอยู่ในเวลานี้ 1.ทำให้คนรุ่นใหม่หลายคนไม่อยากมีลูก เพราะเป็นห่วงอนาคตข้างหน้าว่าไม่รู้วันมันจะเลวร้ายไปกว่านี้มากน้อยแค่ไหน 2.ทำให้หลายคนเลือกที่จะปลีกวิเวก เข้าไปในป่าในเขา ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวหรือรับรู้ความทุกข์ร้อนของใครเพื่อทำให้ตัวเองสงบ

ซึ่งตรงข้ามกับคำสอนขององค์พระเยซูคริสต์ที่ได้ตรัสสอนเอาไว้ว่า ให้เราทำมาหากินและอยู่ร่วมกับสังคมและต้องรับผิดชอบกับสังคมผ่านการเป็นเกลือและแสงสว่างด้วย

พี่น้องครับ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในสภาพที่มาร ซาตาน วิญญาณชั่ว มันเป็นผู้มีสิทธิอำนาจในการครอบครองอยู่ก็จริง แต่องค์พระเยซูคริสต์ทรงตรัสกับเราว่าอย่างไรครับ ? แต่ท่านทั้งหลายจงชื่นใจเถิด เพราะท่านทั้งหลายสามารถที่จะมีสันติสุขนี้ได้เพราะว่า เราได้ชนะโลกแล้ว

Q : ก็คือว่า พระคำของพระเจ้าต้องการที่จะบอกอะไรกับเรา? พระคำของพระเจ้าต้องการที่จะบอกอะไรกับเราว่า ท่ามกลางอุปสรรคปัญหา ท่ามกลางความสับสน วุ่นวายของโลกใบนี้

1.คนที่อยู่ฝ่ายพระเจ้า คนที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ คุณสามารถที่จะอยู่เหนือความทุกข์และมีความสุขนั้นได้

สิ่งหนึ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า อาณาจักรของพระเจ้าเป็นอาณาจักรนิรันดร์ ส่วนอาณาจักรของมาร ซาตาน วิญญาณชั่วนั้นเป็นอาณาจักรของฝ่ายเนื้อหนังหรือฝ่ายวัตถุ เวลานี้มาร ซาตาน วิญญาณชั่ว มันใช้วัตถุสิ่งของ มันใช้เกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญเป็นสิ่งที่ควบคุมมนุษย์อยู่ในเวลานี้

คนที่อยู่ฝ่ายอาณาจักรของพระเจ้าสามารถที่จะอยู่เหนือความทุกข์และมีความสุขนั้นได้ เพราะคนที่อยู่ฝ่ายอาณาจักรของพระเจ้าเขาจะสนใจสิ่งที่เป็นอะไรๆที่เป็นนิรันดร์ Ex. บำเหน็จนิรันดร์ , ชีวิตนิรันดร์ , สง่าราศีนิรันดร์

เมื่อคนที่อยู่ในอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้สนใจเรื่องเกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ คำถามคือ ใครเป็นฝ่ายควบคุมใครครับ ? คนที่อยู่ฝ่ายอาณาจักรของพระเจ้าจะเป็นฝ่ายควบคุมอาณาจักรของมาร ซาตาน วิญญาณชั่ว

คำตรัสที่ว่า “ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก” หมายความว่า คนที่มีพระเจ้าก็ยังคงมีปัญหานี้กับเขาด้วย คำว่า “เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน” หมายความว่า ปัญหามีเอาไว้ให้แก้ คำว่า “แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว" หมายความว่า มารมีเอาไว้ให้เราชนะ

ดังนั้นในเช้าวันนี้ให้เรามาดูวิธี ที่จะทำให้เราเป็นคนเหนือทุกข์และมีความสุขได้ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ว่ามีกี่ประการด้วยกัน

ประการที่ 1 คือ ฆ่าตัวเก่าให้เกลี้ยง

พี่น้องที่รักครับ โลกใบนี้ที่มันมีปัญหาและส่วนหนึ่งต้องมานั่งถอนหายใจ เป็นทุกข์เพราะสังคมไทยมีปัญหา สาเหตุหนึ่งมาจากการที่มนุษย์กินวิตามิน I กันมากเกินไป

วิตามิน I ที่ว่านี้คือ มนุษย์มีตัวเองเป็นศูนย์กลาง มึงแน่ กูแน่ มึงเก่ง กูเก่ง มึงใหญ่ กูใหญ่ คนนั้นโลภ คนนี้เอาเปรียบ คนนั้นมีอคติคนนี้เห็นแก่ตัว และด้วยปัญหาที่ว่านี้ ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งต้องเข่นฆ่ากัน จะเป็นการฆ่ากันด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามมันก็ทำให้เราทุกข์ใจทั้งสิ้น

แต่ฆ่าในความหมายของคริสเตียนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการฆ่าคนอื่น แต่หมายถึงการฆ่าตัวเอง และการฆ่าตัวเองที่ว่านี้ ก็ไม่ได้หมายถึง ให้เอาปืนมายิงตัวเองหรือเอามีดมาแทงตัวเองก็ไม่ใช่อย่างนั้น

คำถามก็คือว่า เราจะฆ่าตัวเองอย่างไร ? ให้เราดูพระคำของพระเจ้าใน กท.2:20 ด้วยกัน พระคำของพระเจ้าตรัสว่า“ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว แต่ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ข้าพเจ้าเองมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า”

พี่น้องเคยสังเกตไหมครับว่า ไม้กางเขนนั้นมีลักษณะเป็นเช่นไร ? คือ มีเส้นอยู่ 2

เส้นแรกคือ I ในแนวดิ่ง , I ในแนวตั้ง ในที่นี้คือ ฉัน ตัวฉัน ตัวกู ของกู กูถูก กูดี

เส้นที่ 2 คือ I ในแนวขวาง ,I ในแนวนอนในที่นี้คือเส้นตัดตัว I

คำว่าให้เรา “ฆ่า” ตัวเองในที่นี้ หมายถึง ให้เรานำสิ่งที่ไม่ดีที่มีอยู่ในตัวของเราทั้งหมดนั้นไปตัดกับอีกเส้นหนึ่งหรือไปถูกตรึงไว้กับพระเยซูที่ไม้กางเขน

สิ่งที่ไม่ดีของเรามีอะไรบ้าง ? ความรู้สึก ความนึกคิดที่ไม่ดี สิ่งที่เราจะพูด สิ่งที่เราจะกระทำในทางที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง ให้เรานำสิ่งต่างๆเหล่านั้นทั้งหมดไปตรึงไว้ที่กางเขนและมอบไว้ให้กับพระองค์

2 คร.5:17 “เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไป ดูเถิดสิ่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น”

สิ่งที่พี่น้องจะต้องรู้และเข้าใจให้ตรงกันนั่นก็คือว่า มนุษย์เรานั้นประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญนั่นคือ ร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ ส่วนที่ควบคุมร่างกาย คือ จิตใจ ส่วนที่ควบคุมจิตใจ คือ จิตวิญญาณ

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการที่มนุษย์เราจะต้องนำมาหาพระเจ้าด้วยคืออะไรครับ ? เราต้องเอาจิตวิญญาณของเรานั้นมาหาพระองค์ก่อน เพราะจิตวิญญาณ คือ ต้นกำเนิดของการให้มีชีวิต

เมื่อเรานำจิตวิญญาณของเรามาหาพระองค์ก่อนเป็นอันดับแรก พระองค์จะเริ่มนำสิ่งเก่าๆออกไปและเริ่มปรับเปลี่ยนจิตวิญญาณอันเป็นตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ขึ้นใหม่

กท.2:20 เมื่อเรายอมถูก “ตรึง” ไว้กับพระคริสต์แล้ว เราไม่สามารถที่จะทำอะไรตามใจตัวเองได้อีกต่อไป นอกจากทำตามน้ำพระทัยของพระองค์เท่านั้นและนี่เป็นปัญหาหนึ่งของผู้เชื่อที่ยังไม่ยอมถูกตรึงร่วมกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าอย่างแท้จริง

ประการที่สำคัญนั่นก็คือว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงอ้าแขนของพระองค์ออกและเปิดรับคนที่จะถูกตรึงร่วมกับพระองค์ที่กางเขนไว้ในทุกๆวัน มีวันไหนบ้างไหมครับพี่น้องที่รัก ? ที่กางเขนเกิดหุบแขนเข้ามา

และการตายต่อตนเองร่วมกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าในแต่ละวันนั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าควรที่จะเสาะและแสวงหาด้วยในทุกๆวัน เพราะมันจะทำให้เราเป็นคนเหนือทุกข์และมีความสุขได้

สิ่งที่ผมจะพูดกับพี่น้องต่อไปนี้ ขอให้พี่น้องโปรดฟังให้ดีๆสิ่งที่ผมจะพูดก็คือว่า คำสอนใดก็ตามที่สอนให้มนุษย์แสวงหา การยิงไม่เข้า แทงไม่เข้า ฟันไม่เข้า อีกทั้งยิ่งสอนยิ่งทำให้มนุษย์ยิ่งมีกิเลศตัณหามากขึ้น หมกมุ่นในเรื่องนั้นเรื่องนี้มากขึ้น Ex.ไปแสวงหากับเลขเด็ดมากขึ้นคำสอนเหล่านี้ล้วนมาจากมารทั้งสิ้น

ดังนั้นถ้าพี่น้องอยากเป็นคนเหนือทุกข์และมีความสุขให้พี่น้องเข้ามาหาพระคริสต์ เพราะพระคริสต์ให้ชีวิตที่เหนือความทุกข์แก่พี่น้องได้

วิธีที่จะทำให้เราเป็นคนเหนือทุกข์และมีความสุขได้ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ประการที่ 2 คือ

ประการที่ 2 คือ ต้องเข้าถึงความลับสุดยอดของพระเจ้า

พี่น้องที่รักครับ ก่อนที่ผมจะมารับใช้พระเจ้าที่สมุทรสงคราม ผมถามกับพระเจ้าว่าทำไมต้องเป็นผมและทำไมถึงต้องเป็นที่นี่

สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับพี่น้องก็คือว่า มนุษย์เราจะต้องค้นหาคำถาม โดยเฉพาะคำถามที่สำคัญยิ่งในชีวิต ไม่ใช่เชื่อกันมาแบบผิดๆ คือ เกิดมาเพื่อชดใช้กรรมเลยดำเนินชีวิตตามยถากรรม

วัตถุประสงค์ของพระเจ้าที่สร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่ออะไร ? คำตอบคือ มนุษย์เราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนพระลักษณะหรือสะท้อนพระสิริของพระเจ้า

ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงปรารถนาให้เราอยู่ร่วมกับสังคมผ่านการทำมาหากินและรับการเสริมสร้างในฝ่ายจิตวิญญาณ เพื่อที่เราจะเหนือทุกข์และมีความสุขและเป็นประโยชน์ต่อสังคมที่เราอาศัยอยู่

Ex.หลายคนตอนนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่ทำไมพี่ถึงยังยิ้มและหัวเราได้ คำตอบคือ เพราะเรามีพระเจ้าไง ? นี่คือ Ex.ของการสะท้อนถึงพระสิริและการรับผิดชอบกับสังคมผ่านการเป็นเกลือและแสงสว่างด้วย

มธ.6:19 “อย่าสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวในโลก ที่ตัวมอดและสนิมอาจทำลายเสียได้ และที่ขโมยอาจขุดช่องลักเอาไปได้”

พระคำของพระเจ้าในมธ.6:19 พูดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า มนุษย์เราสามารถที่จะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างคนเหนือทุกข์และมีความสุขได้อย่างแน่นอนถ้าเราไม่ยึดติดกับสิ่งของๆโลกนี้

เวลานี้ที่เราทุกข์กันอยู่โดยส่วนมากเพราะ เราชอบสะสมและชอบยึดติดสิ่งของในโลกนี้ ซึ่งไม่เพียงเท่านี้หลายครอบครัวยังชอบแข่งขันกับเพื่อนบ้านหรือแข่งขันกับคนอื่นด้วย ไปๆมาๆทำให้เรากลายเป็นคนที่อิจฉาตาร้อนไปโดยจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

ปญจ.12:7 “และผงคลีจะกลับไปเป็นดินอย่างเดิมและจิตวิญญาณจะกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงประทานให้มานั้น”

พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า มนุษย์มาจากดินก็จะกลับไปสู่ดิน จิตวิญญาณของมนุษย์มาจากพระเจ้ามนุษย์ก็จะต้องกลับไปหาพระเจ้า

เคล็ดลับในการที่เราจะเป็นคนเหนือทุกข์และมีความสุขคืออยู่เพื่อสะท้อนพระสิริของพระเจ้า อยู่โดยไม่สะสมทรัพย์สิ่งของที่เป็นของโลก อยู่เพื่อรับการเสริมสร้างในทางของพระเจ้า Ex.ประกาศ นำดวงวิญญาณ การดูแลแกะของพระเจ้า สิ่งต่างๆเหล่านี้คือสิ่งที่นิรันดร์กาล

วันหนึ่งที่พี่น้องจากไปอยู่กับพระเจ้า พระเจ้าถามว่าใครนำท่านรับเชื่อพระเจ้า ? ใครดูแลฝ่ายจิตวิญญาณทำให้เจ้ามีความเชื่อเติบโตเข้มแข็ง ?

เราอยู่ในโลกนี้เพื่อรับการเสริมสร้างในทางของพระเจ้าเพื่อที่เราจะทำในสิ่งที่นิรันดร์กาลในอนาคตผ่านวันที่ได้ชื่อว่าวันนี้ เพื่อที่เราจะกลับไปรับบำเหน็จที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่า “เมืองบรมสุขเกษม” หรือ “สวรรค์”

ถ้าเราเข้าใจหลักการของพระเจ้า เราจะเป็นคนเหนือทุกข์และมีความสุข สามารถจะยิ้มรับความสดชื่นและความอ่อนหวานของโลกใบนี้ได้ในทุกๆวัน

สรุป จะเป็นคนเหนือทุกข์และมีความสุขได้

ประการที่ 1. ฆ่าสิ่งที่ไม่ดีจากชีวิตของเราให้เกลี้ยง

ประการที่ 2. จะต้องเข้าถึงความลับสุดยอดของมนุษย์

ประการที่ 2.1 รู้ถึงวัตถุประสงค์ของพระเจ้าที่สร้างมนุษย์ขึ้นมา

ประการที่ 2.2 อย่าสะสมทรัพย์สมบัติในโลก

ประการที่ 2.3 ทำในสิ่งนิรันดร์กาลในวันนี้เพื่อรับสิ่งนิรันดร์กาลในวันหน้า