คริสตจักรที่เข้มแข็งและทรงพลัง

คำเทศนาเรื่อง คริสตจักรที่เข้มแข็งและทรงพลัง

กจ.(16:12-34) 12 เมื่อออกจากที่นั่นแล้ว ก็ได้ไปยังเมืองฟีลิปปี ซึ่งเป็นเมืองเอกในเขตแคว้นมาซิโดเนีย และเป็นอาณานิคมของโรม เราจึงพักอยู่ในเมืองนั้นหลายวัน 13 ในวันสะบาโตเราได้ออกจากประตูเมืองไปยังฝั่งแม่น้ำ เข้าใจว่ามีที่สำหรับอธิษฐาน จึงได้นั่งสนทนากับพวกผู้หญิงที่ประชุมกันที่นั่น 14 มีหญิงคนหนึ่งในพวกที่ฟังเราชื่อลิเดีย มาจากเมืองธิยาทิรา เป็นคนขายผ้าสีม่วง เป็นคนที่ถือพระเจ้า หญิงนั้นได้ฟังเรา และพระเจ้าได้ทรงเปิดใจของเขาให้สนใจในถ้อยคำซึ่งเปาโลได้กล่าว 15 เมื่อหญิงคนนั้นกับทั้งครอบครัวของเขาได้รับบัพติศมาแล้ว จึงอ้อนวอนเราว่า "ถ้าท่านเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นคนสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า เชิญเข้ามาพักอาศัยในตึกของข้าพเจ้าเถิด" และเขาได้วิงวอนจนเราขัดไม่ได้

16 เมื่อเรากำลังออกไปยังที่สำหรับอธิษฐาน มีทาสสาวคนหนึ่งที่มีผีหมอดูเข้า ได้มาพบกับเรา เขาทำการทายให้นายของเขาได้เงินเป็นอันมาก 17 หญิงนั้นตามเปาโลกับพวกเราไป ร้องว่า "คนเหล่านี้เป็นทาสของพระเจ้าสูงสุด มากล่าวประกาศทางรอดแก่ท่านทั้งหลาย" 18 เขาทำอย่างนั้นหลายวัน ฝ่ายเปาโลก็งุ่นง่านใจ หันหน้าสั่งผีนั้นว่า "ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอ็งจงออกมาจากเขา" ผีนั้นก็ออกมาในเวลานั้น 19ส่วนนายของเขาเมื่อเห็นว่าหมดหวังที่จะได้เงินแล้ว เขาจึงจับเปาโลและสิลาส ลากมาถึงพวกเจ้าหน้าที่ยังที่ว่าการเมือง 20เมื่อลากมาถึงเจ้าเมืองแล้วจึงกล่าวว่า "คนเหล่านี้เป็นพวกยิว ก่อการวุ่นวายมากในเมืองของเรา 21 และสั่งสอนธรรมเนียมซึ่งเราชาวโรมไม่ควรจะรับหรือถือเลย" 22 ประชาชนก็ได้ฮือกันขึ้นเล่นงานเปาโลและสิลาส เจ้าเมืองได้กระชากเสื้อของท่านทั้งสองออก แล้วสั่งให้โบยด้วยไม้เรียว

23 ครั้นโบยหลายทีแล้วจึงให้จำไว้ในคุก และกำชับนายคุกให้รักษาไว้ให้มั่นคง 24 นายคุกเมื่อรับคำสั่งอย่างนั้นแล้ว จึงพาเปาโลกับสิลาสไปจำไว้ในห้องชั้นใน เอาเท้าใส่ขื่อไว้แน่นหนา 25 ประมาณเที่ยงคืน เปาโลกับสิลาสก็อธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นักโทษทั้งหลายในคุกก็ฟังอยู่ 26 ในทันใดนั้น เกิดแผ่นดินไหวใหญ่จนรากคุกสะเทือนสะท้าน และประตูคุกเปิดหมดทุกบาน เครื่องจำจองก็หลุดจากเขาสิ้นทุกคน

27 ฝ่ายนายคุกตื่นขึ้นเห็นประตูคุกเปิดอยู่ คาดว่านักโทษทั้งหลายหนีไปหมดแล้ว จึงชักดาบออกมาหมายว่าจะฆ่าตัวเสีย 28 แต่เปาโลได้ร้องเสียงดังว่า "อย่าทำร้ายตัวเองเลยเราทั้งหลายอยู่พร้อมด้วยกันทุกคน" 29 นายคุกจึงสั่งให้จุดไฟมา แล้วตัวสั่นวิ่งเข้าไปกราบลงที่เท้าของเปาโลกับสิลาส 30 และพาท่านทั้งสองออกมาแล้วว่า "ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะต้องทำอย่างไรจึงจะรอดได้"

31 เปาโลกับสิลาสจึงกล่าวว่า "จงเชื่อและวางใจในพระเยซูเจ้า และท่านจะรอดได้ทั้งครอบครัวของท่านด้วย" 32 ท่านทั้งสองจึงกล่าวสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้า ให้นายคุกและคนทั้งปวงที่อยู่ในบ้านของเขาฟัง 33 ในกลางคืนชั่วโมงเดียวกันนั้นเอง นายคุกจึงพาเปาโลกับสิลาสไปล้างแผลที่ถูกเฆี่ยน และในขณะนั้น นายคุกก็ได้รับบัพติศมาพร้อมทั้งครัวเรือนของเขา34 แล้วได้พาท่านทั้งสองขึ้นไปในบ้านของเขา จัดโต๊ะเลี้ยงท่านแสดงความยินดีอย่างยิ่งพร้อมกับครอบครัว เพราะตนได้เชื่อถือพระเจ้าแล้ว

พี่น้องที่รักครับ ในพระคำของพระเจ้านั้นถ้าพี่น้องได้อ่านอย่างกลั่นกรอง ใคร่ครวญและพิจารณาให้ดีๆ พี่น้องก็จะพบว่า พระคำของพระเจ้านั้นได้พูดถึงคริสตจักรที่ดีและคริสตจักรที่ดี เอาไว้ในพระคำของพระเจ้าด้วย

เราอยากให้พระเจ้าหรือพี่น้องคริสเตียนพูดถึงคริสตจักรเพชรบุรี - สมุทรสงคราม ในทางที่ดีหรือไม่ดีครับ ? ถ้าเราอยากให้พระเจ้าหรือพี่น้องคริสเตียนพูดถึงคริสตจักรและพูดถึงเราในทางที่ดี เราเองก็ควรที่จะดำเนินชีวิตของเราให้เหมาะสมกับพระคำของพระเจ้าด้วย

พระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันในตอนนี้พูดถึงคริสตจักรฟิลิปปี ซึ่งเมืองฟิลิปปีนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองเอกที่ตั้งอยู่ในเขตแคว้นของมาซิโดเนีย ซึ่งเขตแคว้นนี้ใหญ่ไหม ?

ด้วยเหตุนี้โรมจึงมาตั้งอาณานิคมหรือมาตั้งชุมชนเอาไว้ที่นี่ด้วย มาซิโดเนียเป็นแคว้นที่ใหญ่มีฟิลิปปีเป็นเมืองเอก พี่น้องคิดว่าธุรกิจ การค้า การขาย การศึกษาของผู้คนในเมืองนี้เป็นอย่างไรครับ ? เจริญหรือไม่ครับ ? คนในแคว้นนี้ คนในเมืองนี้ จึงเป็นคนที่มี 1.ความรู้ 2.ความสามารถ 3.ฐานะดี 4. คุณภาพชีวิตที่ดี

คำถามคือว่า เรารู้ได้อย่างไรว่าคนในแคว้นนี้ คนในเมืองนี้ จึงเป็นคนที่มี 1.ความรู้ 2.ความสามารถ 3.ฐานะดี 4. คุณภาพชีวิตที่ดี

คำตอบคือ ผ้าสีม่วงที่เขาใช้สวมใส่นั่นแหละเป็นตัวบ่งบอก ผ้าสีม่วงเป็นผ้าที่พวกขุนนาง คนมีฐานะ คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในเมืองนี้ใช้สวมใส่

พระคำของพระเจ้าตรัสว่าในวันสะบาโตนั้น อ.เปาโลกับสิลาสจึงออกไปหากลุ่มนมัสการพระเจ้าและพวกเขามีโอกาสได้สามัคคีธรรมกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า นางลิเดีย เธอเป็นคนชาวเมืองธิยาทิรา เธอมีอาชีพขายผ้าสีม่วงซึ่งมีราคาที่แพง

ลิเดียคนนี้เป็นคนที่ถือในพระเจ้าพระเจ้าอยู่แล้ว แต่เมื่อท่าน อ.เปาโล ได้ประกาศเป็นพยานแก่นางลิเดียและครอบครัว นางลิเดียและครอบครัวจึงเปิดใจรับเชื่อและบัพติสมาทั้งครอบครัว

พระคำของพระเจ้าต้องการที่จะบอกกับเราและหนุนใจเราในเช้าวันนี้นั่นก็คือว่า ในการฟังพระคำของพระเจ้าให้เข้าใจได้นั้นเราจะต้องให้พระวิญญาณของพระเจ้านั้น เปิดหูของเรา เปิดความคิดแก่เรา เปิดใจของเรา เปิดตาของเราเพื่อที่เราจะเข้าในถ้อยคำของพระองค์ คนยิวที่ถือในพระเจ้าอีกมากมายหลายคนที่มาไม่ถึงพระเยซูคริสต์เพราะขาดตรงนี้ ไม่มีตรงนี้

เราเองผู้เชื่อในเรื่องงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่แล้วก็อย่าลืมขอสิ่งต่างๆเหล่านี้กับพระเจ้าด้วยในการอ่านพระวจนะหรือในการฟังพระวจนะของพระเจ้า

พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่านางลิเดียมิได้เพียงถ่อมใจฟังถ้อยคำของผู้รับใช้อย่างท่าน อ.เปาโลกับสิลาสเท่านั้น แต่นางลิเดีย ซึ่งเป็นคนที่ร่ำรวยและมีฐานะ เขายังถ่อมใจกับคนของพระเจ้าด้วย

เขาถ่อมใจอย่างไรครับ ? นางลิเดียได้วิงวอน ขอให้ท่าน อ.เปาโล นั้นได้ไปพักที่บ้านของนางด้วย อ.เปาโล รู้สึกเกรงใจแต่ในท้ายที่สุดก็ต้องตอบรับคำวิงวอนของนางลิเดียจนได้

นางลิเดียเป็นคนร่ำรวย มีฐานะและถ่อม ไม่ใช่รวยและขี้โม้โอ้อวด อีกทั้งนางไม่ทำตัวเหนือกว่าหรือสูงกว่าผู้รับใช้และหรือกดขี่ข่มเหงผู้รับใช้ของพระเจ้า

คริสตจักรในประเทศไทยหลายคริสตจักรนะครับที่มีคณะคณะผู้ปกครอง คณะธรรมกิจ ซึ่งคนเหล่านนี้เป็นผู้ประสบความความสำเร็จทางธุรกิจ แต่หลายคนพยายามที่จะชี้นำ ผรช. ศบ. ให้บริหารคริสตจักรในทำนองแบบนั้นแบบนี้

พอ ผรช. , ศบ.ไม่ทำตาม...เขาก็มักจะไม่พอใจและเริ่มที่จะใช้วิธีกดขี่ข่มเหงผู้รับใช้ในวิธีการต่างๆนานา ซึ่งเรื่องพรรค์อย่างนี้มักเกิดขึ้นกับ ผรช.หรือศบ. ที่รับเงินเดือน รับสวัสดิการ รับเงินของขวัญวันคริสตมาสจากทางคริสตจักร

ต่างจากผู้รับใช้อย่างท่าน อ.เปาโล ที่ต้องทำงานบางสิ่งบางอย่างเพื่อเลี้ยงดูตนเอง โบสถ์มีก็ให้ ไม่มีก็ไม่เอา ซึ่งผู้รับใช้แบบนี้จะไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากคณะผป. , คณะธรรมกิจ , หรือคณะมัคนายกของคริสตจักร เพราะตัวของ ผรช. , ศบ. เป้นตัว Manage ทุกอย่าง

กลับมาที่พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า นางลิเดียได้วิงวอนให้ท่าน อ.เปาโล ได้ไปพักที่บ้านของนางด้วย นางลิเดียเป็นคนร่ำรวย มีฐานะแต่ถ่อม ไม่ใช่รวยและขี้โม้โอ้อวด ไม่ทำตัวเหนือผู้รับใช้หรือกดขี่ข่มเหงผู้รับใช้ ประการที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือว่า ผู้เชื่อในเมืองฟิลิปปีต่างเป็นคนแบบนี้ทั้งนั้นเลยคือ ร่ำรวย มีฐานะ ถ่อมใจ รักพระเจ้า รักคนของพระเจ้า

 คำถามคือว่า ถ้าคริสตจักรแห่งนี้มีจำนวนพี่น้องสมาชิกหรือผู้เชื่อแบบนี้เยอะๆคริสตจักรจะเข้มแข็งและทรงพลังไหมครับ ? เราจะต้องอธิษฐานขอคนเหล่านี้ที่จะเข้ามาในคริสตจักรให้มากขึ้น

พระคำของพระเจ้าในตอนนี้พูดถึงอีกคนหนึ่งนั่นก็คือ พัศดี ซึ่งเป็นคนสัญชาติโรมันเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า แตกต่างจากนางลิเดียที่เชื่อในพระเจ้าและตอนนี้นางลิเดียและครอบครัวได้มาเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าแล้ว

พี่น้องคิดว่า คนที่จะเข้ารับราชการเป็นพัศดีคุมนักโทษอยู่ในเมืองฟิลิปปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองเอกที่ตั้งอยู่ในเขตแคว้นของมาซิโดเนีย ซึ่งเขตแคว้นนี้ใหญ่พอสมควร

พี่น้องคิดว่าเขาจะต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถมากไหมครับ ถึงจะเข้ารับราชการนี้ได้ ?

พระคำของพระเจ้าตรัสว่า เวลาเที่ยงคืน ท่าน อ.เปาโลกับสิลาส มีการนมัสการสรรเสริญพระเจ้าอยู่ในคุก ทันใดนั้นเกิดแผ่นดินไหวขึ้นจนรากคุกสั่นสะเทือน ประตูคุกถูกเปิดออกทุกๆบานประตู เครื่องจองจำหลุดออกจากพวกเขาทุกคน

ตอนนี้พัศดีอาจจะสลบไป พอตื่นขึ้นมาพัสดีก็คิดว่าพวกนักโทษคงหนีกันไปหมดแล้วก็จะฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด แต่เปาโลร้องด้วยเสียงดังว่า อย่าทำร้ายตัวเอง พวกเรายังอยู่ที่นี่ครบทุกคน พัศดีจึงให้เขาจุดไฟขึ้นมาแล้ววิ่งไปหมอบกราบตัวสั่นต่อหน้าท่าน อ.เปาโล

คำถามคือว่า ถ้าเปาโลไม่พูดคำว่า อย่าทำร้ายตัวเอง พัศดีคนนี้ตายไหมครับ ? พัศดีคนนี้ไม่ตายเพราะอะไรครับ ? เพราะคำพูดของเปาโล

คำพูดของท่าน อ.เปาโล ในตอนนี้ คือ คำเป็นและคำตาย

ถ้อยคำขององค์พระเยซูคริสต์ คือ คำเป็นและคำตาย

พี่น้องจำได้ไหมครับว่า เมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงพูดกับต้นมะเดื่อ ต้นมะเดื่อนั้นเป็นหรือตายครับ ?

และพี่น้องจำได้ไหมครับว่า เมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงพูดกับลาซารัส ลาซารัสเป็นหรือตายครับ ?

วิวรณ์ได้บันทึกเอาไว้ว่า ต่อหน้าพระเมษโปดกถ้าใครไม่มีชื่ออยู่ในหนังสือม้วนนั่นคือเป็นหรือตายครับ ?

กลับมาที่พระคำของพระเจ้า พัศดีคนนี้เขาจึงให้ อ.เปาโล จุดไฟขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าไปหมอบกราบแล้วถามท่าน อ.เปาโลด้วยคำถามที่สำคัญนั่นก็คือว่า ข้าพเจ้าจะต้องทำอย่างไรถึงจะได้รับความรอด

หลังจากนั้น อ.เปาโลกับลิลาส จึงใช้เวลา 1 ชม.ในการช่วยกันประกาศเป็นพยานจนพัสดีคนนี้รับเชื่อและพัสดีคนนี้ก็ได้พา อ.เปาโลกับสิลาไปที่บ้านเพื่อล้างแผลที่เขาเฆี่ยนตี

ท่าน อ.เปาโลกับสิลาสก็ได้ประกาศเป็นพยานกับคนในครอบครัวพัสดี จนคนในครอบครัวพัสดีไม่เพียงแต่รับเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าเท่านั้นแต่ทั้งพัสดีและคนในครอบครัวยังรับบัพติสมาในพระเจ้าด้วย

คำถามก็คือว่า การประกาศ การเป็นพยานแบบท่าน อ.เปาโลกับสิลาส แบบนี้มันส์ไหมครับพี่น้อง ? ไปที่ไหนประกาศเป็นพยานในทุกหนและทุกแห่ง การประกาศการเป็นพยานลักษณะแบบนี้เรียกว่า Burden เกิดขึ้นจากภายใน

Ex.ธรรมชาติความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกมันเกิดขึ้นจากภายใน เป็นไปเองตามธรรมชาติท่าน ไม่มีใครบังคับ หยุดที่จะรักลูกตัวเองได้ไหมครับ ? องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเรียกเราว่าลูก ซึ่งนั่นหมายความว่า พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเรา ธรรมชาติของพ่อจึงไม่สามารถที่จะหยุดที่จะรักลูกของตนได้

อ.เปาโล มีใจในการที่จะประกาศเป็นพยานแบบนี้ อยู่นอกคุกประกาศ อยู่ในคุกประกาศ มีอิสระประกาศ ถูกจองจำประกาศ อยู่กรุงเยรูซาเล็มประกาศที่กรุงเยรูซาเล็ม อยู่กรุงโรมประกาศที่กรุงโรม ระหว่างเดินทางไปที่ๆจะถูกตัดศีรษะก็ยังประกาศ นี่เป็นธรรมชาติของท่าน อ.เปาโล ไม่ใช่ทำเพราะตำแหน่งหรือทำเรื่องนี้เป็นเชิงกิจกรรม

คริสเตียนไทยโดยส่วนมากไม่มีตรงนี้ ขาดตรงนี้ มีมิชชันารีบางคนพูดกับผมว่า คริสเตียนไทยขี้เกียจประกาศ ด้วยเหตุนี้เราจึงมีกันอยู่เพียง 600,000 คน ดังนั้นเราจะต้องอธิษฐานขอคนอย่างนี้กับพระเจ้า

กลับมาที่พระคำของพระเจ้า ถ้าพี่น้องสังเกตุชีวิตของลิเดียกับชีวิตของพัสดีให้ดีๆ พี่น้องก็จะพบว่าชีวิตของเขาทั้ง 2 คนนั้นมีอะไรที่เหมือนกัน เขามีความรู้มีการศึกษาที่ดี เขาเป็นคนร่ำรวยมีฐานะ เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี เขารักคนของพระเจ้า เขาให้ความสำคัญกับพระวจนะของพระเจ้า

พี่น้องคิดว่าเมื่อคนอย่าง อ.เปาโล ทิโมธี สิลาส และเดียและครอบครัว นายพัศดีและครอบครัว มาร่วมทีมกันบุกเบิกร่วมกันก่อตั้งคริสตจักร พี่น้องคิดว่าคริสตจักรจะทรงพลังและเข้มแข็งไหมครับ ?

โดยส่วนมากคนก็มักจะคิดว่า ถ้าพวกเขาร่วมกันตั้งคริสตจักร คริสตจักรจะต้องทรงพลังและเข้มแข็งอย่างแน่นอนเพราะเขามีทั้งเงิน มีทั้งคนที่มีความรู้ความสามารถ

คจ.นิมิตใหม่กรุงเทพ เข้ามาบุกเบิกคริสตจักรที่อัมพวาปีนี้เข้าปีที่ 8 แล้ว มีพี่น้องจากคริสตจักรแม่มาช่วยงานทุกสัปดาห์เยอะแยะมากมาย คนที่มาช่วยงานก็ฐานดีบารมีสูงทุกคน ตอนนี้ซื้อที่ดินแล้ว กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้บนพื้นที่ 3 ไร่ แต่คนรับเชื่อยังมีไม่ถึง 20 คน

คำถามคือว่า เงินมี คนมีความรู้ความสามารถมีแต่ 8 ปีได้เพียงเท่านี้คืออะไร ?

ผมไปบุกเบิกก่อตั้งคริสตจักรที่เพชรบุรีเมื่อ 5 มิถุนายน 2559 ความรู้ความสามารถนั้นพอมี แต่เงินนั้นมีจำกัดมาก แต่เรานำคนเพชรบุรีรับเชื่อมากกว่า 100 คน และยังคงดำเนินการถึงวันนี้

คำถามคือว่า มันคืออะไร ? สิ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า เงินนั้นสำคัญ ความรู้ความสามารถก็สำคัญ ทั้ง 2 สิ่งนี้มันเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่จะสนับสนุนให้คริสตจักรเข้มแข็งและทรงพลังได้ แต่การเจิมที่มาจากพระเจ้า การเชื่อฟังพระเจ้านั้นสำคัญที่สุด ไม่ใช่มีเงินก็สามารถที่จะตั้งคริสตจักรได้

พี่น้องฟังสิ่งที่ผมจะพูดเอาไว้ให้ดีๆนะครับ สิ่งที่ผมจะพูดก็คือว่า คนที่พระเจ้าเจิม เขาจะได้รับการอุปถัมภ์หรือเขาจะได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าเสมอ

 ท่าน อ.เปาโล ได้รับการสำแดง ได้รับการเปิดเผย ได้รับการแตะต้องสัมผัส ได้รับการเจิมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ในระหว่างการเดินทางไปดามัสกัส ด้วยเหตุนี้งานของท่าน เปาโล จึงเกิดผลขึ้นตามลำดับ

ยิ่งมีคนอย่างทิโมธี สิลาส มาเป็นผู้ช่วย ยิ่งมีลิเดีย+พัสดีและครอบครัวทั้ง 2 ครอบครัวมาร่วมเป็นทีมสนับสนุนทางการเงินในการทำพันธกิจให้กับเปาโลตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายซึ่งนั่นหมายความว่าจากนี้ อ.เปาโล ไม่ต้องทำงานไปรับใช้พระเจ้าอีกต่อไปด้วยแล้วงานของท่าน อ.เปาโล ยิ่งฉลุย

ฟป.1:1 เปาโลและทิโมธี ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ เรียน บรรดาธรรมิกชนในพระเยซูคริสต์ ซึ่งอยู่ในเมืองฟีลิปปี ทั้งบรรดาผู้ดูแลและมัคนายก

 งานของพระเจ้า เป็นงานที่ใหญ่และเป็นงานที่ยาก จึงไม่สามารถที่จะฝากไว้ที่คนใดคนหนึ่งได้ ด้วยเหตุนี้ท่าน อ.เปาโล จึงเขียนเอาไว้ว่า เรียนบรรดาธรรมิกชนในพระเยซูคริสต์ที่อยู่ในเมืองฟิลลิปีทั้งผู้ดูแลและมัคนายก

คำถามคือว่า ธรรมิกชน คือ ใคร ? ธรรมิกชน คือ บรรดาสมาชิกหรือผู้เชื่อทุกคนในคริสตจักรที่จะต้องรับการถูกสร้างให้เป็นสาวกของพระคริสต์ที่ใช้การได้

พี่น้องที่รักครับ คริสตจักรไม่สามารถที่จะเข้มแข็งและทรงอิทธิพลได้ ถ้าบรรดาสมาชิกในคริสตจักรไม่ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตน ดังนั้นฐานของสมาชิกที่ลุกขึ้นมามีส่วนร่วมรับใช้จึงสำคัญมากต่อความเข้มแข็งของคริสตจักร

พระคำของพระเจ้าใน ฟป.1:1 ยังพูดถึงบรรดาผู้ดูแลและมัคนายก อาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่าท่านได้ตั้งทีมงานหรือคณะทำงานที่จะมาช่วยแบ่งเบาท่าน อ.เปาโล ทั้งในด้านฝ่ายกายภาพและในฝ่ายจิตวิญญาณขึ้นมา

เพราะถ้าท่าน อ.เปาโล ยังต้องมาดูแลในเรื่องต่างๆเหล่านี้การที่ อ.เปาโล จะออกไปบุกเบิกก่อตั้งคริสตจักรใหม่จะเป็นไปได้ไหมครับ ? นอกจากจะไม่สามารถออกไปบุกเบิกก่อตั้งคริสตจักรได้แล้ว อ.เปาโล อาจจะเป็นโรคเครียดสะสมและในท้ายที่สุดท่านอ.เปาโล อาจจะเป็นโรคเส้นเลือดสมองในสมองแตกตายก็เป็นได้

แต่การที่ท่าน อ.เปาโล สามารถที่จะไปบุกเบิกก่อตั้งคริสตจักรใหม่ๆได้เยอะแยะมากมายเพราะบรรดาธรรมิกชน อีกทั้งบรรดาทีมงานหรือคณะทำงานต่างลุกขึ้นมามีส่วนร่วมในการรับใช้พระเจ้าอย่างเข้มข้นเข้มแข็งซึ่งนี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้คริสตจักรฟิลิปปีเป็นคริสตจักรที่เข้มแข็งและทรงพลัง

ที่สำคัญคริสตจักรแห่งนี้เป็นคริสตจักรที่มีบทบาทที่สำคัญในการเคลื่อนพระราชกิจของพระเจ้าออกไปในอีกหลายๆเมืองวันนี้เมื่อเราได้มาศึกษาดูงานผ่านการฟังพระคำของพระเจ้าในเช้าวันนี้ ผมอยากหนุนใจให้พี่น้องได้ตระหนักถึงบทบาทที่พี่น้องทุกคนจะต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็งเหมือนพี่น้องคริสตจักรฟิลิปปี

ผมจะจบคำเทศนาในเช้าวันนี้ลงที่ 1 คร.15:10 แต่ว่าข้าพเจ้าเป็นอยู่อย่างที่เป็นอยู่นี้ก็เนื่องด้วยพระคุณของพระเจ้า และพระคุณของพระองค์ซึ่งได้ทรงประทานแก่ข้าพเจ้านั้นมิได้ไร้ประโยชน์ แต่ข้าพเจ้ากลับทำงานมากกว่าพวกเขาเสียอีก มิใช่ตัวข้าพเจ้าเองทำ แต่เป็นด้วยพระคุณของพระเจ้าซึ่งดำรงอยู่กับข้าพเจ้า

อ.เปาโล เป็นศิษย์ของกามาลิเอล ซึ่งกามาลิเอลเป็นฟาริสีที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เขาสอนกฏต่างๆของชาวยิวได้อย่างละเอียดและลึกซึ้งมาก อ.เปาโล เป็นลูกศิษย์ของครูคนนี้

ซึ่งนั่นหมายความว่า อ.เปาโล ก็ต้องเป็นคนที่ฉลาดมากๆด้วยคนหนึ่ง แต่ท่าน อ.เปาโล พูดเอาไว้อย่างถ่อมใจมากๆใน 1 คร.15:10 ว่า ที่เราทำได้ ที่เราเป็นอยู่ ที่เราเกิดผลทุกอย่างได้ก็โดยพระคุณของพระเจ้า มิใช่โดยความรู้หรือกำลังความสามารถที่เขามี

ถ้อยคำนี้เป็นถ้อยคำที่พวกเราทุกคนควรจดและจำเอาไว้นะครับ มีผู้เชื่อจำนวนไม่น้อยที่ชอบพูดในทำนองที่ว่า โบสถ์นี้ถ้าฉันไม่ถวายโบสถ์นี้ก็คงอยู่ไม่ได้ โบสถ์นี้ถ้าฉันไม่ร่วมรับใช้ใครจะร่วมรับใช้ และอื่นๆเป็นต้น พี่น้องที่รักครับท่าน อ.เปาโล ซึ่งมีความรู้ที่ดีมากๆคนหนึ่งยังไม่พูดอย่างนี้เลยแล้วเราเป็นใครถึงพูดอย่างนี้

สุดท้ายครับ การที่เรามีกันและกัน อยู่ร่วมกันและการที่เราได้ร่วมงานกันในคริสตจักรของพระองค์นี่ก็ถือว่าเป็นพระคุณของพระเจ้าอย่างหนึ่งในชีวิตของเรา

พี่น้องที่รักครับ เมื่อพระเจ้าทรงกำหนดเราแต่ละคนไว้ในคริสตจักรใดคริสตจักรหนึ่งเพื่อให้เราได้รับใช้พระเจ้าร่วมกันนี่ก็ถือว่าเป็นพระคุณของพระเจ้าอย่างหนึ่งที่จะให้เราร่วมกันสร้างคริสตจักรของพระองค์ให้เข้มแข็ง

Green City