คิดให้ถูก

            คำเทศนาเรื่อง  :  คิดให้ถูก

    

อารัมภบท

พระคำของพระเจ้าในเช้าวันนี้เป็นอาหารแข็ง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายจิตวิญญาณ แต่ผู้ที่เป็นทารกหรือเป็นเด็กในฝ่ายจิตวิญญาณก็สามารถที่จะได้รับพระพรจากพระคำของพระเจ้าในเช้าวันนี้ได้ ซึ่งอาจจะเคี้ยวยากสักนิดหนึ่ง แต่ถ้าท่านตั้งใจฟังและจดบันทึกโดยที่พี่ - น้องไม่พูด ไม่คุยหรือไม่แอบวาดรูปตัวการ์ตูน เหมือนกับ 2 -3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าพี่ - น้องทุกท่าน จะได้รับพระพรจากพระวจนะของพระเจ้า ในวันนี้อย่างแน่นอนและนี่เป็นสิ่งที่ผมเรียกร้องจากพี่ - น้องในเช้าวันนี้

และในเช้าวันนี้อัญเชิญพระคำของพระเจ้าจาก ฟลป.4:8 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ ขอจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ทรงคุณ คือ ถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญก็ขอจงใคร่ครวญดู

มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง มีนิสัยที่ดื้อรั้น ชอบอวดเก่ง เห็นใครทำอะไร เขาก็มักที่จะทำตามได้เสมอและคิดว่าตนเองทำได้ดีกว่าผู้อื่นเสมอ

วันหนึ่งในขณะที่เด็กหนุ่มกำลังเดินเล่นอยู่บริเวณริมแม่น้ำ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นผู้เฒ่าสองคนกำลังนั่งตกปลาอยู่ ผู้เฒ่าแต่ละคน เต็มไปด้วยมาดที่เคร่งขรึม แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ หรือความเป็นผู้ชำนาญการในการตกปลาอย่างแท้จริง เพราะเพียงแค่ผู้เฒ่ากระตุกคันเบ็ด ก็ได้ปลาทุกครั้ง

และทันใดนั้น ผู้เฒ่าคนหนึ่งก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพริบตานั้นเอง เด็กน้อยคนนี้ก็เห็นผู้เฒ่าคนหนึ่ง...กระโดดไปบนผิวน้ำทีละก้าว ทีละก้าว จนไปถึงฝั่งตรงข้าม เพื่อไปหยิบเหยื่อปลา แล้วก็กระโดกลับมานั่งที่เดิม

และในเวลาต่อมาไม่นานนัก ท่านผู้เฒ่าคนที่สอง ก็ได้ลุกขึ้น พร้อมกระโดด ทีละก้าว ทีละก้าว....ข้ามไปฝั่งตรงกันข้ามของแม่น้ำ เหมือนกับผู้เฒ่าคนแรก เพื่อนำปลาที่เพิ่งตกได้ไปใส่ข้อง แล้วก็กระโดดกลับมานั่งที่เดิม

เด็กหนุ่มคนนี้เห็นแล้วถึงกับตะลึง ไม่คาดฝันว่าผู้เฒ่าทั้ง 2 คนนี้ จะมีวิชาตัวเบาสามารถเดินบนผิวน้ำได้ เมื่อเด็กหนุ่มเห็นดังนี้แล้ว และด้วยความที่ตนคิดว่าแน่ ชอบอวดเก่ง ไม่คิดหน้า คิดหลังจึงลองกระโดดเหมือนผู้เฒ่าทั้งสองคนดูบ้าง แต่เขากลับจมลงสู่แม่น้ำในทันที

ผู้เฒ่าได้ช่วยเหลือเด็กหนุ่มจนขึ้นฝั่งได้แล้ว ท่านผู้เฒ่าคนหนึ่งก็มองเด็กหนุ่มคนนี้ด้วยความสมเพช แล้วจึงบอกว่า

เจ้าเด็กโง่..พวกเรานั่งตกปลาอยู่ที่นี่ มาเป็นสิบปี เรารู้ดีว่าตรงไหนมีตอ ตรงไหนไม่มีตอ เราเลยกระโดดไปฝั่งโน้น มาฝั่งนี้ได้ เหมือนมีวิชาตัวเบา สามารถเหยียบบนผิวน้ำได้

เจ้าเด็กโง่....เจ้ายังไม่รู้อะไร เจ้าจะทำตามอย่างเราได้อย่างไร

พี่ - น้องที่รักครับ ก่อนที่เด็กหนุ่มคนนี้ จะได้รู้ถึงเคล็ดลับของผู้เฒ่าทั้งสองคนนี้ ก็เล่นเอาเด็กหนุ่มคนนี้เกือบถึงตาย

คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า ในโลกนี้มีความคิดอยู่ด้วยกันกี่ชนิด ?

ความคิดในโลกนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด             ชนิดที่ 1 คือ ความคิดแบบสัตว์

ชนิดที่ 2 คือ ความคิดแบบมนุษย์                    ชนิดที่ 3 คือ ความคิดแบบพระเจ้า

ความคิดชนิดที่ 1 อยู่ใน 2ปต.2:12 และ ยูดา 1:10

2ปต.2:12 แต่ว่าคนเหล่านั้น เป็นเหมือนสัตว์เดรัจฉานที่ปราศจากความคิด เป็นสัตว์ที่ทำตามสัญชาตญาณ เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่า เขากล่าวประณามสิ่งที่เขาไม่เข้าใจเลย เขาจะต้องพินาศอย่างสัตว์ร้ายนั้น

ยูดา1:10 แต่ว่าคนเหล่านี้พูดก้าวร้าวสิ่งที่เขาเองไม่เข้าใจและการซึ่งเขารู้สึกตามสัญชาติญาณ เหมือนสัตว์เดรัจฉานที่ไม่มีความคิด เขาก็ต้องถึงหายนะด้วยการนั้น

ความคิดชนิดที่ 1 คือ ความคิดแบบสัตว์ คำถามต่อไปนั่นก็คือว่าแล้วสัตว์มันคิดอย่างไร

พี่ - น้องที่รักครับ ธรรมชาติของสัตว์โดยแท้จริงแล้วมันไม่ค่อยที่จะมีความคิดกันสักเท่าไหร่ แต่มันมีความคิดมั้ย คำตอบคือ มี

         ความคิดของสัตว์นั้นมันจะเริ่มหลั่งออกมาในทันทีโดยเฉพาะในตอนที่มัน

1. หิวกระหาย

2. อยากหรือมีความต้องการ

3. จะต้องหาทางปกป้องตัวของมันเอง

วิธีที่สัตว์โลกใช้ในการตอบสนองตอบต่อความคิดของมันคืออะไร ?

คือ การขู่ การใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง ใช้ความดุดัน ใช้ความโหดร้าย ใช้การฆ่าและใช้การทำลายในการจัดการกับคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นสัตว์ฝ่ายตรงข้ามของมัน

ถ้าพี่ - น้อง ได้มีโอกาสดูสารคดีเกี่ยวกับเรื่องราวของสัตว์โลก หรือได้มีโอกาสดูสารคดีของ บริษัท เนชั่น จีโอกราฟฟิค พี่ - น้องก็จะได้เห็นภาพซึ่งผมได้อธิบายไปเมื่อสักครู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิดและวิธีการของสัตว์แต่ละชนิด

ความคิดชนิดที่ 2 อยู่ในมธ.16:23 พระองค์จึงหันไปตรัสกับเปโตรว่าอ้ายซาตานจงไป

ให้พ้นเจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเราเพราะเจ้าคิดอย่างคน มิได้อย่างพระเจ้า

ความคิดชนิดที่ 2 คือ ความคิดแบบมนุษย์

ความคิดแบบมนุษย์นั้น เป็นความคิดฝ่ายโลกหรือเป็นความคิดฝ่ายเนื้อหนัง

พื้นฐานความคิดของมนุษย์นี้สืบทอดกันมาแบบออโตโนมัติทางพันธุ์กรรม

ดังนั้น ความคิดของมนุษย์ จึงถือเป็น เกียรติภูมิ ของความเป็นมนุษย์ชาติ เวลานี้ เกียรติภูมิ ของความเป็นมนุษย์ชาตินั้น นับวันยิ่งจะน้อยลงไปทุกทีๆเพราะอะไรพี่ - น้องทราบมั้ยครับ ? เพราะมนุษย์คิดแบบไม่คิด

คิดแบบไม่คิด หมายความว่าอย่างไรครับ ?

คิดแบบไม่คิด หมายความว่า คิดแบบไม่คิดถึงคนอื่นเลย

คิดแบบไม่คิด หมายความว่า คิดแบบไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

คิดแบบไม่คิด หมายความว่า คิดก่อนวัยอันสมควร คิดแบบเพ้อฝันไร้สาระ

คิดแบบไม่คิด หมายความว่า คิดแบบเอาแต่เหตุผลของตัวเองแต่ฝ่ายเดียว เหตุผลของ

คนอื่นช่างมัน ลักษณะดังที่กล่าวมานี้นี่คือ คิดแบบไม่คิด เวลานี้ความเป็นมนุษย์หรือความเป็นคนของผู้คนในสังคมกำลังล้มเหลวเป็นอย่างมาก

พี่ - น้องที่รักครับ ถ้าพื้นฐานความคิดของมนุษย์ ที่พระเจ้าได้ให้กับมนุษย์นี้ ได้รับการฝึกฝน ให้คิดอย่างถูกต้องและเหมาะสม ความคิดนั้นก็จะเป็นความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นอย่างมาก

ซึ่งนั่นหมายความว่า หน้าที่ของการเป็นมนุษย์อย่างหนึ่งนั่นก็คือการใช้ความคิดนั่นเองและความคิดแบบมนุษย์ที่ว่านี้มีเพียงอยู่ในมนุษย์เท่านั้น จะมีอยู่ในสัตว์ได้ไหมครับพี่ - น้อง ? ไม่ได้

มีเรื่องแปลกแต่จริง ซึ่งผมไม่ทราบว่าพี่ - น้องจะเห็นด้วยหรือไม่ นั่นก็คือว่า ความคิดแบบสัตว์ วิธีการแบบสัตว์และการกระทำแบบสัตว์กับมีอยู่ในมนุษย์มากขึ้น พี่ - น้องว่าจริงมั้ย ?

1. ปัจจุบันครูข่มขืนลูกศิษย์มีมากหรือมีน้อย

2. ปัจจุบันเมียร่วมกับชู้สั่งฆ่าผัวตัวเองมีมากหรือมีน้อย

3. ปัจจุบันมนุษย์ฆ่ามนุษย์ด้วยกันมีมากหรือมีน้อยครับ

4. ปัจจุบันมนุษย์ทำร้ายหรือทำลายมนุษย์กันมีมากหรือมีน้อย

5. ปัจจุบันสามีฆ่าลูก ฆ่าเมีย แบบยกครัวมีมากหรือมีน้อยครับ

6. ปัจจุบันลูกนอกจากจะไม่เลี้ยงดูพ่อ - แม่แล้ว ยังฆ่าพ่อ - ฆ่าแม่บังเกิดก้าวของตนเอง

มีมากหรือมีน้อย

ไม่ทราบว่าพี่ - น้องเห็นด้วยกับผมมั้ยครับ ? นี่คือเรื่องที่แปลก....แต่จริง

ที่ความคิดแบบสัตว์ วิธีการแบบสัตว์ การกระทำแบบสัตว์นั้น มีอยู่ในมนุษย์มากขึ้น คนที่มีความคิด ความอ่าน เขาพากันเรียกมนุษย์พวกนี้ว่า สัตว์มนุษย์และในอนาคต สัตว์มนุษย์ เหล่านี้พี่ - น้องคิดว่า จะมีมากขึ้นหรือน้อยลงครับ ? มากขึ้นอย่างแน่นอน

ความคิดชนิดที่ 3 อยู่ใน อสย.55:9 เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใดวิถีของเราสูงกว่าทางของเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น

ความคิดชนิดที่ 3 คือ ความคิดแบบพระเจ้า

ความคิดแบบพระเจ้านั้นไม่ใช่เป็นความคิดแบบที่มนุษย์คิด

ความคิดแบบพระเจ้านั้น ต้องเป็นความคิดที่สูงขึ้น (ความคิดที่ดี) ไม่ใช่เป็นความคิดที่ตกต่ำลง

ดังนั้นถ้าพี่ - น้องต้องการที่จะมีความคิดแบบพระเจ้านี้ พี่ - น้องก็จะต้องฝึกความคิดในทางที่สูงหรือในทางที่ดีนี้บ่อยๆ จะฝึกแบบชั่วครั้ง ชั่วคราวไม่ได้

พี่ - น้องจะต้องฝึกจนกระทั่งความคิดนี้เป็นความคิดที่ 1 ) คุ้นเคย 2 ) เคยชิน และความคิดของพี่ - น้องก็จะเป็นความคิดในแบบของพระเจ้าอย่างอัตโนมัติ

คำถามคือว่า แล้วเราจะฝึกความคิดในแบบของพระเจ้านี้ได้อย่างไร ? ให้ที่ประชุมเปิดไปที่ฟลป. 4:8 อีกครั้งหนึ่ง

   เราจะฝึกความคิดในแบบของพระเจ้านี้ได้

ประการที่ 1 คือ จงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง

พี่ - น้องที่รักครับ Dr. Walter Carvert ได้รายงานผลการวิจัย ไว้ดังนี้ว่า คนเรามักจะใช้พลังสมอง คิดเรื่องจริงเพียงแค่ 8 % เท่านั้น ส่วนในเรื่องที่ไม่เป็นจริงหรือเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง หรือเรื่องที่เราควบคุมมันไม่ได้ และหรือเรื่องที่มันเกินความสามารถของเรานั้น เราใช้พลังงานสมองคิดเรื่องเหล่านี้สูงถึง 92 %

โดยเฉพาะตอนที่เรารู้สึกวิตกกังวลนั้น พลังงานสมองจะถูกใช้ให้คิดเรื่องเหล่านี้มากเป็นพิเศษ ซึ่งนั่นหมายความว่า เราใช้เวลาไปคิดกับเรื่องที่ไม่ควรจะคิดมากหรือน้อยครับพี่ - น้อง

ถ้าเราใช้พลังสมองคิดในเรื่องที่ไม่เป็นจริง หรือคิดในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องหรือคิดในเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ หรือคิดในเรื่องที่เกินความสามารถของเรา เช่น

คิดที่จะมีครอบครัวก่อนวัยอันสมควร ทั้งที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน นั่นก็เท่ากับว่า เราได้เปิดช่องให้กับมาร - ซาตาน เข้ามาในความคิดของเราเรียบร้อยแล้ว

พี่ - น้อง ยังจำเหตุการณ์ ในสวนเอเดนได้มั้ยครับ ? เหตุการณ์ในสวนเอเดน ทำให้เราทราบว่า มาร - ซาตาน มันไม่ได้เป็นคนหยิบหรือมันไม่ได้เป็นคนยื่น ผลไม้ นั้นให้กับ เอวา ถูกมั้ยถูก

แต่มาร - ซาตาน มันทำอย่างไรครับพี่ - น้อง ? มันพูดทำให้เอวาต้องคิดและเมื่อเอวาได้ใช้พลังของสมอง คิดในเรื่องนี้สูงถึง 92 % ผลของเรื่องและฉากจบของนี้เป็นอย่างไรครับ?

ผลก็คือ เอวากับอาดัมได้ล้มลงในความบาป ฉากจบของเรื่องก็คือทั้งสองถูกขับให้ออกจากสวนเอเดนพร้อมคำสาปแช่งจากพระเจ้า

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2001 ที่ผ่านมา ผู้ก่อการร้ายเรียนรู้ที่จะถล่มตึกเพ็นตากอน ของประเทศสหรัฐ ทำไมผู้ก่อการร้าย ถึงเลือกที่จะถล่มตึกเพ็นตากอน ? เพราะตึกเพ็นตากอนนั้น เปรียบเสมือนกับศูนย์บัญชาการทางทหารของสหรัฐ ถือได้ว่า เป็นขุมกำลังทางความคิดของสหรัฐ ศัตรูต้องการที่จะโจมตีเป็นอันดับแรก ถ้าขุมพลังทางความคิดเสียหาย ประเทศก็จะพลอยเสียหายตามไปด้วย

พี่ - น้องที่รักครับ มาร - ซาตาน มันต้องการที่จะโจมตีความคิดของเราให้ได้

ถ้ามาร - ซาตาน ทำให้เราคิดผิดทางได้แล้ว มาร - ซาตาน มันจะดีใจมาก และถ้าเราไม่กลับใจใหม่ต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง ปลายทางชีวิตของเราจะอยู่ในมือของมาร - ซาตานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พระคำของพระเจ้าใช้คำว่า จงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง ซึ่งหมายความว่า ให้เราสำรวจความคิดของเราอยู่เสมอว่าเรื่องที่เราคิดนั้น

มันเป็นเรื่องที่เราสามารถควบคุมมันได้หรือไม่

มันเป็นเรื่องที่เกินกำลังความสามารถของเรามากน้อยแค่ไหน

มันมีความเป็นไปได้หรือมันมีความเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน

ถ้าพี่ - น้องสำรวจความคิดของเราและรู้ว่ามันเกินกำลังความสามารถของเรา

เราควบคุมมันไม่ได้ มันไม่ได้อยู่ในน้ำพระทัยของพระจ้า เราก็ไม่ควรที่จะปล่อยความคิดนั้นไปเรื่อยๆ หรือเราไม่ควรให้ใครมาหว่านสิ่งที่ไม่ดีในความคิดของเรา แล้วทำให้เรารู้สึกอยากที่จะเดินหรืออยากที่จะทำในสิ่งนั้นต่อไป เหมือนกับที่มาร - ซาตานมันได้ทำกับเอวา

ดังนั้นพี่ - น้องที่รัก เราควรที่จะสำรวจความคิดของเราและระมัดระวังความคิดของตัวเราเองเอาไว้ให้ดี มิเช่นนั้นมาร ซาตาน มันอาจจะหว่านเมล็ดแห่งความคิดที่ไม่ถูกต้องในชีวิตของเราได้

   เราจะฝึกความคิดในแบบของพระเจ้านี้ได้

ประการที่ 2 คือ จงใคร่ครวญถึงสิ่งที่น่านับถือและสิ่งที่ยุติธรรม

ถ้าเราจะฝึกความคิดของเราให้ถูกต้องตามแบบอย่างของพระเจ้าแล้ว พระคัมภีร์ สอนเราว่าให้เราคิดถึงบุคคลที่น่านับถือ บุคคลที่มีการพฤติกรรมที่ดี บุคคลที่มีการกระทำที่น่ายกย่อง ให้เราคิดถึงคนที่จรรโลงความยุติธรรมในสังคมไม่ลำเอียง และให้เราคิดถึงในสิ่งที่ถูก ที่ต้อง ที่ควร และคนที่คิดจะทำสิ่งต่างๆที่สวยงามเหล่านี้ได้ต้องเป็นคนที่คิดสูงหรือคิดต่ำครับพี่ - น้อง พระคำของพระเจ้าใน อสย.1:17 ตรัสดังนี้ว่า จงฝึกกระทำความดี จงแสวงหาความยุติธรรม

วันนี้ถ้าผมให้พี่ - น้องใคร่ครวญถึง สาวกของพระเยซูคริสต์เจ้าคนหนึ่งที่มีนามว่า ยูดาสกับอีกคนหนึ่งที่เป็นแค่เพียงผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ ที่มีนามว่า ศักเคียส พี่ - น้องจะใคร่ครวญถึงใครครับ ? ศักเคียส เพราะอะไร ?

เพราะศักเคียสต้องการที่จะพบกับพระเยซูคริสต์ ซึ่งนั่นหมายความว่า เขาต้องการที่จะทำความดี ศักเคียสในตอนนี้น่านับถือมั้ยครับพี่ - น้อง ?

ศักเคียสแต่ก่อนเขาเก็บภาษีอย่างขูดรีด แต่เมื่อเขาได้พบกับพระเยซูคริสต์แล้วเขาต้องการที่จะคืนภาษีให้กับคนที่เขาได้เอามาสูงถึงสี่เท่า ซึ่งนั่นหมายความว่า เขาต้องการที่จะแสวงหาความยุติธรรม ศักเคียสตอนนี้ยุติธรรมมั้ยครับพี่ - น้อง ?

พี่ - น้องได้ฟังเรื่องราวของศักเคียส ในแต่ละครั้ง ในแต่ละหนแล้ว รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจไหมครับ ชื่นใจไหมครับ ในทางตรงกันข้ามเมื่อพี่ - น้องได้ฟังเรื่องราวของยูดาส ในแต่ละครั้ง แต่ละหนพี่ - น้องรู้สึกหดหู่ใจหรือว่าเศร้าใจมั้ยครับ แต่เราก็ต้องรับฟัง

เราจะทำแบบชนิดเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ โดยที่ไม่สนใจรับรู้เรื่องอะไรของใครเลยนั้นไม่ได้

ในขณะเดียวกัน ถ้าเราไปสนใจฟังเรื่องที่ไม่น่าฟังหรือใคร่ครวญในสิ่งที่ไม่น่านับถือหรือใช้เวลากับมันมากจนเกินไป เรื่องเหล่านี้ มันจะมารบกวนชีวิต มันจะมารบกวนจิตใจของเราบ่อย ๆ ทำให้ขาดสันติสุขได้

   เราจะฝึกความคิดในแบบของพระเจ้านี้ได้

ประการที่ 3 คือ จงใคร่ครวญสิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารักและสิ่งที่ทรงคุณค่า

ถ้าเราจะฝึกคิดให้ถูกต้องตามแบบอย่างของพระเจ้าแล้ว พระคัมภีร์สอนว่าให้เรา คิดถึงอะไรครับ สอนให้เราคิดถึงสิ่งที่บริสุทธิ์ เมื่อพี่ - น้องเสร็จจากการอาบน้ำ อาบท่าแล้ว พี่ - น้องรู้สึกสบายตัวมั้ยครับ ?

ผมจะรู้สึกสบายตัวมากเมื่อเสร็จจากการชำระร่างกายใหม่ๆ เพราะร่างกายของเราสะอาด

พระคำของพระเจ้าใน อฟซ.4:22-24 ตรัสดังนี้ว่า ท่านจงทิ้งตัวเก่าของท่านซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปสู่ความตาย ตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง และจงให้วิญญาณจิตของท่าน เปลี่ยนใหม่ และให้ท่านสวมสภาพใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง

พี่ - น้องที่รักครับ การคิดถึงสิ่งที่บริสุทธิ์ในที่นี้คืออะไร ? การคิดถึงความบริสุทธิ์ในที่นี้คือ การคิดถึงสิ่งที่บริสุทธิ์ทางศีลธรรม การที่คนเราคิดถึงสิ่งที่ สะอาดบริสุทธิ์ทางศีลธรรมจะทำให้ชีวิตของเรานั้นไม่ไปสู่ความตาย

เวลานี้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่ออกมาตามสื่อต่างๆกว่าครึ่งหนึ่งที่ออกมาสื่อให้คนในสังคมคิดในเรื่องทางเพศ ที่น่าเศร้าใจก็คือ มีเยาวชนไทยเป็นจำนวนมากที่ไม่

เพียงแต่เสียพื้นที่ทางความคิดให้กับเรื่องพวกนี้เท่านั้น แต่ยังเสียความบริสุทธิ์ให้กับเรื่องพวกนี้ด้วย

ขอบคุณพระเจ้า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปร่วมประชุมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ. สมุทรสงคราม พบว่าในจังหวัดของเรา มีเด็กอายุระหว่าง 13 - 18 ปี การศึกษาอยู่ที่ระดับ ม. ต้น และ ม. ปลาย มีเพศสัมพันธ์แล้วตัวเลขที่เปิดเผย ณ.ปี 50 อยู่ที่ 20.8% ซึ่งนั่นหมายความว่า การคิดถึงความบริสุทธิ์ทางศีลธรรมของคนมีมากขึ้นหรือน้อยลงครับพี่ - น้อง ?

ขอพระเจ้าช่วยเยาวชนที่เป็นคริสเตียนไทยทุกคน ที่จะไม่เสียพื้นที่ทางความคิดและจะไม่เสียพื้นที่ทางร่างกายให้กับมาร - ซาตานมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

พระคำของพระเจ้าสอนเราว่า นอกจากสอนให้เราคิดถึงสิ่งที่บริสุทธิ์แล้วยังสอนให้เราคิดถึงในเรื่องใดอีกครับ สอนให้เราคิดถึงสิ่งที่น่ารัก คิดถึงสิ่งที่สวยงาม

มนุษย์เราส่วนมากเวลามองสิ่งที่น่ารัก เวลามองสิ่งที่สวยงาม ก็มักจะมองเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เช่น สุภาพสตรีก็ชอบมองนางสาวไทยจริงมั้ยครับ ? และบางคนก็ฝันว่าตัวเองเป็นนางสาวไทยด้วย แต่พระเจ้าของเราไม่ได้คิดอย่างที่มนุษย์คิด และพระองค์ก็ไม่ได้ทรงสอนอย่างนั้น

พระคำของพระเจ้าในหนังสือ สภษ.4:23 ตรัสดังนี้ว่า เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ พระเจ้าสอนให้เรามองสิ่งที่มีคุณค่าของคนๆนั้น คือ สิ่งที่ไหลจากข้างในออกมาสู่ภายนอก Inside Out

นั่นก็คือ ความดี , ความสัตย์ซื่อ , การเสียสละ , ความเชื่อที่สูง การดำเนินชีวิตที่สวยงาม, การอุทิศตัวถวาย , การรักษาเกียรติยศและชื่อเสียง โดยเฉพาะเกียรติและพระนามของพระองค์เป็นบุคคลที่เราควรมองมากที่สุด อีกทั้งพระองค์ทรงคาดหวังกับเรา เหมือนที่สุภาพสตรีฝันว่าอยากเป็นนางสาวไทยนั่นแหละ

พี่ - น้องทราบมั้ยครับว่า ทำไมพระเจ้าถึงอยากให้เรา เป็นเหมือนอย่างพระองค์

ถ้าเราเป็นเหมือนอย่างพระองค์ ความชั่วทั้งปวงที่มันจะเข้ามาทำลายความคิดของเรานั้นมันเข้ามาไม่ได้

   เราจะฝึกความคิดในแบบของพระเจ้านี้ได้

ประการที่ 4 คือ จงใคร่ครวญถึงสิ่งที่ล้ำเลิศและสิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ

พี่ - น้องที่รักครับ มีการกล่าวขานกันว่าคนไทยมากกว่า 80% ได้ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอาไว้ที่บ้านของเขา คนต่างชาติที่ไม่รู้จักประเทศไทยดีพอก็มักจะพากันตั้งคำถาม

ถามว่า รูปใคร ติดทำไม ติดเพราะอะไร ติดเพราะอะไรครับพี่ - น้อง ?

ในฝ่ายร่างกายพระองค์ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ล้ำเลิศ โครงการพระราชดำริของพระองค์ท่านนั้นล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองทั้งสิ้นคนไทยทั้งประเทศ จึงพากันสรรเสริญ พากันเทิดทูนพระมหากษัตริย์พระองค์นี้อย่างสูงสุด

เช่นเดียวกันกับบ้านของผู้เชื่อ ที่มักจะประดับบ้านของตนด้วยไม้กางเขน คนที่ไม่ได้เชื่อพระเจ้าก็มักจะพากันถามว่า ติดทำไม ติดเพราะอะไร ติดเพราะอะไรครับ ?

ติดเพราะอาจารย์ที่โบสถ์ให้มา เอาไว้สวมที่คอเพราะมันสวยดีและตอนนี้กำลังอินเทรนด์ อันนั้นอาจจะเป็นคำของคนที่ยังไม่ได้เติบโตในพระเจ้า

เราติดไม้กางเขนไว้ที่บ้านหรือห้อยไม้กางเขนเอาไว้ที่คอเพื่อคิดถึง พระคุณของพระเจ้า เพื่อคิดถึงพระราชกิจต่างๆที่พระเยซูได้ทรงกระทำ ซึ่งไม่ใช่เพียงเพื่อคนในชาตินี้เท่านั้นแต่เพื่อเพื่อมวลมนุษย์ชาติ ซึ่งล้วนแต่เป็นพระพรแก่ฝ่ายจิตวิญญาณของเราทั้งสิ้น ผู้เชื่อจึงพากันยกย่องสรรเสริญกษัตริย์เหนือกษัตริย์พระองค์นี้

พี่ - น้องคิดว่า เวลานี้มีคนไทยมากน้อยแค่ไหนที่ได้ใคร่ครวญถึงพระดำรัสที่พระองค์ได้ทรงพูด มีคนไทยจำนวนน้อยม๊าก..... ที่ใคร่ครวญถึงพระดำรัส ของพระองค์ท่าน

ถ้าพี่ - น้องผ่านไปตามศูนย์การค้าผ่านไปย่านบันเทิงโดยเฉพาะในตอนกลางคืน จะพบว่าคนหนุ่มคนสาวทั้งนั้นเลย ที่ออกไปจับจ่ายใช้สอยกันอย่างสุรุ่ยสุร่ายทั้งๆที่ยังแบ

มือขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่

ผมจึงมักจะพูดว่าแท้จริงแล้วคนไทยรักพระองค์ท่านเพียงแค่ปากเท่านั้น ไม่ได้รักพระองค์ท่านด้วยการกระทำ

เช่นเดียวกันกับในเวลานี้ พี่ - น้องคิดว่าเวลานี้มีคริสเตียนมากน้อยแค่ไหนครับที่ได้ใคร่ครวญ ถึงพระดำรัสสั่งขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าใน มธ.28:19 - 20

เช่นเดียวกันกับในเวลานี้ พี่ - น้องคิดว่าเวลานี้มีผู้เชื่อมากน้อยแค่ไหนครับที่ได้ใคร่ครวญถึงคำว่า จง ซึ่งเป็นคำสั่งห้ามปฏิบัติและในขณะเดียวกันก็เป็นคำสั่งให้ปฏิบัติด้วยในเวลาเดียวกัน เวลานี้เราทำในสิ่งที่สลับกันกับพระดำรัสของพระเจ้า

พระคำของพระเจ้าบอกว่าปฏิบัติเราไม่ปฏิบัติ พระคำของพระเจ้าบอกว่าห้ามปฏิบัติเราปฏิบัติ ด้วยความรักของพระเจ้านะครับผมอยากจะบอกว่า ถ้าพี่ - น้องดำเนินชีวิตคริสเตียนโดยที่เราไม่ได้ใคร่ครวญถึงคำสั่งห้ามของพระเจ้า มันก็ไม่ต่างอะไรไปจาก

1. การที่เราถือครองความคิดของตนเองเอาไว้มากกว่าความคิดของพระเจ้า

2. การที่เราถือครองความคิดที่ไม่ถูกต้องมากกว่าความคิดที่ถูกต้อง

3. การที่เราถือครองความคิดที่ต่ำมากกว่าความคิดที่สูง

มีคำพูดของผู้เชื่อคนหนึ่งได้พูดเอาไว้ดังนี้ว่า ความคิดจากเบื้องบนไม่เคยสร้างผลเสียให้ใครและความคิดจากเบื้องล่างก็ไม่เคยสร้างชีวิตที่ดีให้กับใคร ให้พี่ - น้องถามคนข้างขวาว่า ท่านถือความคิดของตนเองไว้มากพอหรือยัง

ให้พี่ - น้องถามคนข้างซ้ายว่า ท่านอยากถือความคิดที่ถูกต้องไหม

ให้พี่ - น้องถามใครก็ได้ว่า ท่านอยากถือความคิดที่สูงไหม

ถ้าพี่ - น้องถือครองความคิดของพระคริสต์ ถือครองความคิดที่ถูกต้อง ถือครองความคิดที่สูงที่มาจากเบื้องบนแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำร่องความคิดของพี่ - น้องในเรื่องราวต่างๆในแต่ละวัน ในแต่ละปัญหา และในแต่ละสถานการณ์ที่เข้ามาในชีวิตของพี่ - น้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเช้าวันนี้ ผมขอหนุนใจพี่ - น้อง ที่ใคร่ครวญถึงสิ่งที่ล้ำเลิศจากพระเจ้า เอเมน

สรุปพระวจนะของพระเจ้าในเช้าวันนี้

1.คิดให้ถูกโดยใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง

2.คิดให้ถูกโดยใคร่ครวญถึงสิ่งที่น่านับถือและสิ่งที่ยุติธรรม

3.คิดให้ถูกโดยใคร่ครวญถึงสิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารักและสิ่งที่ทรงคุณค่า

4.คิดให้ถูกโดยใคร่ครวญถึงสิ่งที่ล้ำเลิศและสิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

Green City