ลมหายใจแห่งความสุข

   

ลมหายใจแห่งความสุข

  ยน.14:27 เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย

  ชีวิตคริสเตียนไม่ได้เป็นชีวิตที่ผิดแปลกแตกต่างไปจากชาวโลกหรือไม่ได้ผิดแปลกแตกแตกต่างไปจากคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า พระเยซูคริสต์ ซึ่งนั่นหมายความ ชีวิตคริสเตียนยังต้องเจอกับกุหลาบที่แหลมคนเหมือนกับคนอื่นๆนั่นเอง

  เพียงแต่สิ่งที่เรามีและชาวโลกไม่มี นั่นก็คือ พระเจ้า

  มนุษย์ทุกคนต่อจะให้เก่งสักแค่ไหนก็ตามทุกคนล้วนแต่มีความจำกัดด้วยกันทั้งสิ้น แต่เมื่อมนุษย์ที่มีความจำกัด ได้เข้ามาพึ่งพาในพระเจ้าที่ไม่มีความจำกัดพี่น้องคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นครับ ?

  ทำให้ชีวิตของเรานั้นมีความสุข มีสันติสุข มีความชื่นชมยินดี เพราะเรามีพระเจ้า 1.ที่คอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ 2.ที่คอยช่วยเหลือเรายามที่เราหมดแรง 3.ที่ทำให้เรารู้เป้าหมายที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิต

จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

     ประการที่ 1 เราพบอาวุธของซาตาน

  เราพบอาวุธชิ้นหนึ่งที่มาร - ซาตาน มันใช้กับมนุษย์ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะเชื่อในพระเจ้าหรือไม่เชื่อในพระเจ้าก็ตาม ประการที่สำคัญนั่นก็คือว่า มาร - ซาตาน มันใช้อาวุธชิ้นนี้กับมนุษย์ได้ผลมาโดยตลอดอีกด้วย

  คำถามคือ อาวุธที่ว่านี้คืออะไรครับ ? คือ การที่มาร ซาตาน มันทำให้มนุษย์นั้นมีความกลัวหรือการที่มาร ซาตาน มันทำให้มนุษย์นั้นมีความวิตกกังวล

  พอเรามีความกลัวหรือพอเรามีความวิตกกังวลเกิดขึ้นอะไรเกิดขึ้นครับ ? สันติสุขและความชื่นชมยินดีหายไปจากชีวิตไหมครับ ? การคิดมากและความเครียดเข้ามาแทนที่ไหมครับ ? ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย? ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวไหมครับ ? สิ่งต่างๆเหล่านี้มาร – ซาตาน ใช้เป็นอาวุธหลักในการจัดการกับมนุษย์มาโดยตลอด

  2-3 ปีที่ผ่านมาและในอนาคต เราจะเห็นอย่างชัดเจนมากขึ้นว่ามาร – ซาตานมันใช้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จนถึงภัยสงครามระหว่างประเทศและสงครามทางการค้า ทำให้ผู้คนขาดความสุขหรือสันติสุข ขาดความชื่นชมยินดี ในชีวิตลงไปมาก

  ที่เป็นเช่นนี้เพราะมนุษย์ผู้ซึ่งเป็นคนบาปถูกมาร ซาตาน สอนในเรื่องของการมีความสุข การสันติสุขและความชื่นชมยินดีไปในทางที่ผิด

  พี่น้องจำได้ไหมครับ เมื่อพระเจ้าทรงสร้างอาดำ-เอวาขึ้นมา พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นให้กับอาดำ-เอวา ไม่ว่าจะเป็นที่พักหรืออาหาร พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า

  สวนเอเดน คือที่พักของอาดำ-เอวา อาหารของทั้ง 2 คน คือ ผลไม้และพืชผักธัญญาหาร พระคำของพระเจ้าใน ปฐก.2:15 ตรัสดังนี้ว่า ผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้ เจ้ากินได้ตามใจชอบ แต่ผลของต้นไม้แห่งการรู้ถึงความดีและความชั่วนั้น ห้ามเจ้ากิน

  ปฐก.3 พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า มาร – ซาตาน ได้เข้ามาพูดคุยกับเอวา มาร - ซาตาน บอกกับเอวาว่า 1.เจ้าจะอยู่บนพื้นฐานการจัดเตรียมของพระเจ้าทำไม 2. เอวาเจ้ามองดูผลไม้นั้นสิมันน่ากินมากเลยนะ ถ้าเจ้ากับสามีลองได้กินมัน เจ้าจะพบความสุขที่แท้จริง

  มาร ซาตาน ให้เอวามองที่ผลไม้นั้น การผลไม้นั้น คือ มองไปที่วัตถุ สิ่งของ มองไปที่มูลค่าราคา เมื่อเรามองไปที่วัตถุสิ่งของ มองไปที่มูลค่าราคา ความอยากได้ใคร่มีจึงเกิดขึ้น ความอยากเป็นเหมือนพระเจ้าจึงเกิดขึ้น เมื่อเอวาได้ทำตามที่มาร-ซาตานสั่ง คำถามคือว่า ความสุขแท้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ? ความทุกข์แท้ต่างหากที่เกิดขึ้น

  จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

     ประการที่ 2 เราพบผู้มอบสันติสุข

  นิยามของคำว่า ศาสนา คือความพยายามของมนุษย์ที่จะไปถึงพระเจ้า

  นิยามของคำว่า ข่าวประเสริฐ คือความพยายามของพระเจ้าในการลงมาช่วยมนุษย์

  ถ้าเราต้องการเข้าแผ่นดินสวรรค์เราต้องทำไมครับพี่น้อง ? เราก็ต้องรู้จักกับเจ้าของแผ่นดินสวรรค์

  และถ้าเราต้องการมี “สันติสุข” เราต้องทำไมครับพี่น้อง ?

  เราก็ต้องรู้จักกับผู้มอบสันติสุขให้กับเราจริงไหมครับ ? คำถามคือ ผู้มอบสันติสุขให้กับมนุษย์คือใครครับ ? คือ พระเจ้าพระเยซูคริสต์

  ซึ่งนั่นหมายความว่า สันติสุข ที่แท้จริงนั้นมีอยู่ในพระเจ้าพระเยซูคริสต์เท่านั้น และองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเน้นภายในหรือภายนอก คนของพระเจ้าจิตวิญญาณต้องมาก่อน เมื่อภายในเราดีมันจะส่งผลให้ภายนอกเรานั้นดีตามไปด้วย

  และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้คริสเตียนเรานั้นแม้ถึงทุกข์ก็สุขได้ เพราะความสุขที่แท้จริงของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับ 1.วัตถุสิ่งของ 2.เกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ 3.ความสะดวกสบาย

  ถ้าเราเข้าใจพระคำของพระเจ้าใน ยน.14:27 อย่างถูกต้องอีกทั้งเมื่อเราเรียงลำดับความสำคัญถูกต้อง ถึงชีวิตจะมีปัญหาเพราะคริสเตียนเราก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ต้องทำงาน ที่ต้องกิน ต้องใช้ ต้องหลับ ต้องนอน

  และต้องพบกับอุปสรรคปัญหาเหมือนกับคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า พระเยซูคริสต์ แต่ถึงชีวิตเราจะมีปัญหาแต่เราก็สามารถที่จะมีสันติสุขได้

  ซึ่งตรงกันข้ามกับคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ที่เขาจะเน้นไปที่วัตถุสิ่งของ มูลค่าราคา เกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ เมื่อเขาเรียงลำดับความสำคัญผิด  ชีวิตจึงเต็มไปด้วยปัญหา

  เมื่อชีวิตเต็มไปด้วยปัญหา ความทุกข์ยากลำบาก เขาจึงค่อยมาหาทางแก้ไขในด้านจิตวิญญาณ ด้วยการทำบุญ ตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา ไหว้พระ 9 วัด , ถือศีล กินเจ , บวชพระหรือบวชชีพราหมณ์ แต่นั่นก็ไม่ใช่สันติสุขที่แท้จริงอีกเช่นกัน

  ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า พระเยซูคริสต์วนเวียนอยู่กับเรื่องพวกนี้อยู่โดยตลอดทั้งชีวิต เพราะฉะนั้นเงิน วัตถุสิ่งของ มูลค่าราคา เกียรติ ลาภยศ คำสรรเสริญ ไม่ใช่สันติสุขแท้ แต่สันติสุขแท้ของชีวิตคน คือ เรื่องจิตวิญญาณ

      จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

       ประการที่ 3 เราพบความแตกต่างของความสุข

  ซาตานหรือโลกนี้สอนเราว่า เราจะมีความสุข มีสันติสุขและมีความชื่นชมยินดีได้ ถ้าเรามีซึ่งเกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ , วัตถุสิ่งของ , ทรัพย์สินเงินทอง รวมถึงความสะดวกสบาย แต่เราก็พบว่าหลายคนมีสิ่งต่างๆเหล่านี้แล้วเขามีความพึงพอใจและหยุดที่จะมีไหมครับ ?

  มีคำพูดหนึ่งที่นักการเมืองชอบพูดกันนั่นคือคำว่า รวย และจะไม่โกง

  คำถามคือว่า คำพูดที่ว่านี้มันจริงไหม ? ซึ่งนั่นหมายความว่า มนุษย์ในโลกนี้ยังตกเป็น ทาส คำสอนของซาตานอยู่ในเวลานี้ ซึ่งคำพูดนี้ มาร - ซาตาน มันได้ใช้พูดกับ Adam-Eve มาตั้งแต่ในสวนเอเดนเป็นต้นมา

  ปญจ.5:10 “คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงินและคนรักสมบัติไม่รู้จักอิ่มกำไร นี่ก็อนิจจังด้วย

  ซึ่งนั่นหมายความว่า คนในโลกนี้จะอิ่มซึ่งเกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ , วัตถุสิ่งของ , ทรัพย์สินเงินทอง รวมถึงความสะดวกสบาย ไหมครับ ?

  มากไปกว่านั้นคนในโลกนี้ลองถ้าเขาไม่มีซึ่ง 1.เกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ 2. วัตถุสิ่งของ ทรัพย์สินเงินทอง รวมถึงขาดความสะดวกสบายในชีวิต หลายคนจึงไม่มีความสุข , กังวลใจ , ทุกข์ใจ , เครียดในชีวิต , อยากฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจนถึงที่เป็นอยู่ขณะในนี้และเลยไปถึงในอนาคตข้างหน้าอีกหลายปี

  Ex. การลงทุนแล้วขาดทุน

  แต่พระเจ้า พระเยซูคริสต์ทรงสอนเราถึงการมีความสุขหรือการมีสันติสุขที่แตกต่างจากที่โลกนี้ให้ ให้เราดูพระคำของพระเจ้าจาก ยน.4:13-14 พระเยซูตรัสตอบว่า "ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีกแต่ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้นจะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์"

  น้ำของโลกนี้คือ น้ำแห่งโลกีย์วิสัย คนที่กินและดื่มน้ำนี้จะหิวและหระหายอีกไหมครับ ? รวยและไม่โกงจริงไหม ? ได้ซึ่งอำนาจ เกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ พอแล้วไม่เอาแล้วจริงไหมครับ ? ได้ซึ่งทรัพย์สินเงินทอง วัตถุสิ่งของแล้วพอจริงไหมครับ ? เขายังกระหายอีก ไม่พออยู่เรื่อยไป

  พระคำของพระเจ้าใน ยน.4:13-14 ได้บอกกับเราอย่างชัดเจนว่าแต่ "แต่ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลยเพราะน้ำที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าให้เราได้ดื่ม ยน.4:11 บอกกับเราว่านั่นคือ น้ำแห่งการธำรงชีวิตซึ่งผู้ที่ได้ดื่มน้ำนี้จะไม่หิวและกระหายอีกเลย ยน.4:14 และน้ำนั้นจะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร"

  คำว่า "แต่ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย มีความหมายว่า ให้เรามองที่แก่นแท้ไม่ใช่เปลือกนอก แก่นแท้ของเราในฐานะผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าคือ ด้านจิตวิญญาณ

  ซึ่งนั่นหมายความว่า ในการที่เราจะมีความสุขหรือมีสันติสุขได้นั่นก็คือ คริสเตียนเราต้องสนใจด้านจิตวิญญาณมากกว่าเกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทอง วัตถุสิ่งของ

  เด็กคนหนึ่งจะเจริญเติบโตได้อย่างดีและมีคุณภาพได้ต้องทำไมครับ ? รับการดูแลอย่างดี ได้รับประทานอาหารที่ดีมีคุณภาพจริงไหมครับพี่น้อง

  น้ำที่พระเจ้าได้มอบให้กับเราแล้ว เราต้องเรียนรู้ในการที่จะธำรงไว้และให้มันเกิดขึ้นบ่อน้ำพุและพลุ่งขึ้นในตัวเขาจนถึงชีวิตนิรันดร

   คำถามคือว่า เราจะธำรงรักษาไว้และให้มันเป็นน้ำพุและพลุ่งขึ้นในชีวิตของเราได้อย่างไร ? ด้วยการนมัสการ อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ ศึกษาพระคำของพระเจ้า มีส่วนการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า และนี่คือปัญหาของคริสเตียนในยุคนี้

  พี่น้องฟังสิ่งที่ผมจะพูดให้ดีๆนะครับ สิ่งที่ผมจะพูดนั่นก็คือว่า เราทราบกันแล้วว่าเราจะธำรงรักษาไว้และให้มันเป็นน้ำพุและพลุ่งขึ้นในชีวิตของเราได้ด้วยการ

นมัสการ อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ ศึกษาพระคำของพระเจ้า อีกทั้งมีส่วนร่วมในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าแต่ทุกสิ่งที่เราทำต้องทำอย่างมีคุณภาพ

  คริสเตียนเวลานี้ทำงานไปเปิดเพลงนมัสการไป ทำนั่นนี่นู่นไปฟังคำเทศนาไป คำถามเหล่านี้เป็นการทำอย่างมีคุณภาพไหมครับ ?

  เมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงอธิษฐานกับพระบิดาในสวนเก็ธเสมานี องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสกับ ยอห์น เปโตรและ ยากอบว่า ให้รออยู่ที่ตรงนี้  เพื่อที่พระองค์จะทรงไปอธิษฐานกับพระบิดาอย่างมีคุณภาพที่ตรงนู้น เพื่ออะไรครับ ? ที่พระองค์จะทรงฟังพระสุรเสียงของพระบิดาอย่างชัดเจน เพื่อที่พระองค์จะใช้เวลาในการจดจ่ออยู่กับพระบิดาอย่างมีคุณภาพ

  การกระทำอย่างนี้ นี่ไม่ใช่การรักษาระดับน้ำฝ่ายวิญญาณแต่เป็นการเพิ่มปริมาณน้ำที่มันจะสามารถโพยพลุ่งให้สูงขึ้นในชีวิต

  การที่พี่น้องเปิดโทรศัพท์มือถือและฟังเพลงนมัสการหรือฟังคำเทศนาและทำนั่นนี่นู่นไปเรื่อยๆ 1.นั่นเป็นเพียงการเพิ่มปริมาณของหยดน้ำ เมื่อเราทำกันแบบนี้เมื่อไหล่ปริมาณน้ำมันจะมากพอที่จะโพยพลุ่งให้สูงขึ้นได้สักที 2.พี่น้องกำลังพาตัวเองเข้าหลักสูตรเร่งรัด เร่งรีบ ผิวเผินและพี่น้องคิดว่าเราจะได้ยินพระสุร เสียงของพระเจ้าไหมครับ ?

  ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าพอมีใครมาเสนออะไรซึ่งเกียรติ ลาภยศและคำสรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทอง วัตถุสิ่งของหรือ กลิ่น รูปรส กลิ่น เสียง และเราจะตกไปอยู่ภายใต้การล่อลวงนั้น

  เมื่อ 2 วันที่แล้วมีพี่น้องท่านหนึ่งโทรมาหาผม เริ่มต้นด้วยอาจารย์อธิษฐานเผื่อพี่ด้วยนะ ผมถามว่าแล้วจะให้อธิษฐานเผื่อเรื่องอะไร ?

  พี่น้องคิดว่าเค้าจะบอกผมไหมว่าเค้าฝากอธิษฐานเผื่อเรื่องอะไร ? ก่อนจะบอกเค้าออกตัวก่อนว่าอาจารย์อย่าว่าพี่นะ คือ.....

    Ex.

  คริสเตียนเราไม่ปฏิเสธการมีอำนาจ ลาภยศและคำสรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทอง วัตถุสิ่งของหรือ กลิ่น รูปรส กลิ่น เสียง แต่เราจะตกไม่ตกเป็นทาสของการล่อลวงนั้น

   การที่เราซึ่งเป็นผู้เชื่อในพระเจ้าและเรายังขาดความสุขหรือขาดสันติสุขนั่นก็เพราะว่า เราเลือกที่ไปรับเอาความสุขของโลก ซึ่งเป็นทางโลกียวิสัยหรือทางของของซาตาน มากกว่าทางของพระเจ้ และที่การที่พี่น้องคริสเตียนยังเป็นกันเช่นนี้กันอยู่เพราะพี่น้องเข้ามารับการสร้างในทางของพระเจ้าที่ไม่เหมือนกัน

   กจ.17:11 ยิวชาวเมืองนั้นมีจิตใจสูงกว่าชาวเมืองเธสะโลนิกา ด้วยเขามีใจเลื่อมใสรับพระวจนะของพระเจ้า และค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่าข้อความเหล่านั้นจะจริงดังกล่าวหรือไม่

   พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า ยิวชาวเมืองนั้นเพิ่มปริมาณน้ำแห่งความเชื่อฟัง , ยำเกรง , เคารพนับถือ , ให้เกียรติ , เลื่อมใสและศรัทธาในพระเจ้าทุกๆวันผ่านทางพระคำของพระเจ้า

   ซึ่งเมื่อเราแสวงหาสันติสุขอย่างนี้ พี่น้องคิดว่า ต่อให้เราต้องเจอกับอุปสรรคปัญหาหรือเจอกับความทุกข์ยากลำบาก คำถามว่า เราจะยังมีสันติสุขในพระเจ้าได้ไหมครับ ? ไม่ต้องเครียด กินได้นอนหลับ ไม่ต้องนอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก และนี่เป็นเหตุทำให้ทุกวันของชีวิตเรามีความสุขได้ แม้หายใจเราก็ยังมีความสุขได้

   สรุป

     ประการที่ 1 คือ อาวุธของมาร

     ประการที่ 2 เราพบผู้มอบสันติสุข

     ประการที่ 3 เราพบความแตกต่างของความสุข

Green City